logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

ทำไม...ผมหงอก ?? (ผมเป็นสีเทา-ขาว)

โดย :
yrprincess
เมื่อ :
วันอังคาร, 06 มกราคม 2558
Hits
64637

ผมหงอกเกิดขึ้นได้อย่างไร?? 

 

ผู้หญิงผมหงอก ผมขาว

 

ผมหงอก (ผมขาว) เป็นที่รู้กันดีว่าสีเทาของเส้นผมนั้นเป็นผลมาจากการลดลงของเม็ดสี ในขณะที่ผมขาวคือไม่มีเม็ดสีเลย สมมติฐานหนึ่งของการเกิด หรือสีขาว-เทา ก็คือ 'มาจากกรรมพันธ์ุ หรือพ่อแม่เรานั่นเอง' แต่นักวิทยาศาสตร์จะต้องสืบค้นให้ลึกลงไปอีกว่าเพราะอะไร และทำไม??  เพราะเมื่อแก่ตัวลงเส้นผมของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนสีเหมือน ๆ กัน หรือมีผมหงอกเกิดขึ้น ซึ่งโอกาสที่ผมจะหงอกนั้นเพิ่มขึ้นถึง 10-20% เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปีแล้ว !!

แรกเริ่มนั้นเส้นผมก็มีสีขาวนี่แหละ แต่เส้นผมของแต่ละคนได้สีธรรมชาติมาจากเม็ดสี (pigment) ที่เรียกว่า 'เมลานิน (melanin)' เมลานินในคนนั้นถูกสร้างมาตั้งแต่ก่อนเกิดเสียอีก สีตามธรรมชาติของเส้นผมนั้นจึงขึ้นอยู่กับ การกระจายตัว ชนิด และปริมาณเม็ดสีเมลานินในชั้นกลางของตัวเส้นผมหรือเรียกชั้นนี้ว่า คอร์เทกซ์ (cortex)

 

โครงสร้างของเส้นผม และขน

 

เม็ดสีผมนั้นมี 2 ชนิด คือ เม็ดสีเข้ม เรียกว่า ยูเมลานิน (eumelanin) และเม็ดสีอ่อน เรียกว่า ฟีโอเมลานิน (pheomelanin) ซึ่งเม็ดสีทั้ง 2 ชนิดเมื่อผสมกันแล้วจะได้เฉดสีผมที่หลากหลาย

 

อธิบายเม็ดสีผม ยูเมลานิน (eumelanin) และฟีโอเมลานิน (pheomelanin)

เม็ดสีผมในผมเฉดสีต่าง ๆ

 

เม็ดสีเมลานินนั้นถูกสร้างมาจากเซลล์เม็ดสีที่มีชื่อเฉพาะว่า เมลาโนไซต์ (melanocyte) เซลล์เมลาโนไซต์นี้อยู่บริเวณชั้นผิวหนังด้านบนที่เส้นผมหรือขนนั้นงอกขึ้นมา โดยเส้นผมแต่ละเส้นจะงอกขึ้นมาจากปุ่มรากผม (Hair follicle) อันเดียวเท่านั้น

 

ปุ่มรากขนทีมี่อายุน้อย และยังมีเมลานินสีอยู่ ปุ่มรากขนที่มีอายุมาก ซึ่งไม่มีเมลานิน

 

ขนในแต่ละระยะมีอายุไม่เท่ากัน ตลอดจนขนในแต่ละส่วนของผิวก็มีอายุไม่เท่ากัน เช่น บนศีรษะก็จะมีอายุประมาณ 3-4 ปี ใต้วงแขน ก็ประมาณ 1-3 เดือน นอกจากนี้ยังขึ้นกับเชื้อชาติอีกด้วย โดยวงจรชีวิตของขน มี 3 ระยะ ดังต่อไปนี้

1. ระยะ Anagen เป็นระยะที่เส้นผมมีการเจริญมากที่สุด (active growth) ถึง 2-7 ปี ในระยะนี้ต่อมขนอยู่ลึกในชั้น dermis มีเส้นเลือดมาเลี้ยง มีลักษณะเป็นกระเปาะ เป็นระยะที่ประกอบด้วยเซลล์เม็ดสี และมีรากที่พร้อมจะสร้างขนใหม่ พอครบอายุของมันแล้ว เส้นขนจะไม่โตขึ้นอีก ซึ่งส่วนใหญ่เส้นผมบนหนังศีรษะประมาณ 80-85% จะอยู่ในระยะนี้

2. ระยะ Catagen บางที่เรียกว่าระยะที่มีการเปลี่ยนแปลง (transition phase) ระยะนี้ต่อมขนจะเลื่อนสูงขึ้น สีเริ่มจางลง แยกตัวจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยง และหลุดไปในที่สุด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10-20 วัน

3. ระยะ Telogen เส้นผมเข้าสู่ระยะนี้เมื่อการเจริญของเส้นผมนั้นสมบูรณ์แล้ว คืองอกและหลุดร่วงไป ส่วนใหญ่เส้นผมบนหนังศีรษะจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 10-15% ซึ่งเป็น ระยะที่ไม่มีเส้นผม หลังจากนั้นร่างกายก็จะสร้างขนระยะ Anagen ให้เกิดขึ้นมาใหม่แทนที่ วนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

 

วงจรชีวิตของขน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะ Anagen, ระยะ Catagen และระยะ Telogen

 

ภาพการ์ตูนวงจรชีวิตของขน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะ Anagen, ระยะ Catagen และระยะ Telogen

 

เมื่อเริ่มสร้างเส้นผม เซลล์เมลาโนไซต์จะให้เม็ดสีเมลานินกับเซลล์ที่มีเคราติน (keratin) เคราตินคือโปรตีนโครงสร้างหนึ่งของเส้นผม เส้นขน ผิวหนัง และเล็บของเรานั่นเอง ทำให้โครงสร้างเหล่านี้มีสีสันที่แตกต่างกันไป

ดร.เดสมอนด์ โทบิน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเซลล์ชีววิทยาได้สันนิษฐานว่าปุ่มรากผมนั้นมี Melanogenic clock ที่จะชะลอหรือหยุดการทำงานของเซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งจะไปลดเม็ดสีที่เส้นผมได้รับนั่นเอง ทำให้เกิดผมขาวผมหงอก หรือสีของเส้นผมที่อ่อนลง สังเกตได้ว่าก่อนที่ผมเราจะร่วงนั้น ปลายรากผมมักจะมีสีจางลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้การที่เส้นผมเปลี่ยนเป็นสีเทา หรือมีผมหงอกนั้นเพราะวัยที่เปลี่ยนไป และกรรมพันธุ์ เนื่องจากยีนส์ที่ควบคุมการเสื่อมประสิทธิภาพของเม็ดสีของแต่ละปุ่มรากผมนั่นเอง ทำให้ผมแต่ละเส้น ของคนแต่ละคน มีอัตราการหลุดร่วงและเกิดผมหงอกผมขาว เร็ว-ช้าแตกต่างกันไป

วารสารวิทยาศาสตร์ของนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้รายงานสนับสนุนถึงความล้มเหลวของสเต็มเซลล์ของเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte stem cell: MSC) ที่ไม่สามารถคงสภาพของเม็ดสีที่เซลล์เมลาโนไซต์เองได้สร้างจนทำให้เส้นผมกลายเป็นผมหงอกผมขาว หรือเป็นสีเทาในที่สุด ดังนั้นความล้มเหลวของการทำงานของ MSC นี้เองที่จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสีผมที่จะเปลี่ยนไป

 


 

ปัจจัยอื่นๆที่สามารถเปลี่ยนสีของเส้นผม

แบ่งเป็นปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน ดังนี้

1. ปัจจัยภายใน (Intrinsic factor) เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม  ฮอร์โมน  อายุ  การกระจายตัวของสารต่างๆในร่างกาย เป็นต้น

2. ปัจจัยภายนอก (Intrinsic factor) เช่น สภาพภูมิอากาศ  มลพิษ  สารพิษ  การสัมผัสกับสารเคมี เป็นต้น

และยังพบว่าปุ่มรากผมนั้นสามารถสร้างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide: H2O2) ที่ทำให้สีเส้นผมหายไปได้ โดยไปเป็นตัวทำให้เกิด Oxidative stress ที่มีผลต่อสีของเส้นผมอีกด้วย

 

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide; H2O2)

ความจริงของการงอกของเส้นผม !!!

หนังศีรษะของคนเรามีเส้นผมเฉลี่ย 100,000-150,000 เส้น

  • เส้นผมแข็งแรงมาก แต่ละเส้นสามารถทนต่อความเครียด (Strain) ได้ถึง 100 กรัม รวมแล้วเส้นผมบนศีรษะของคน 1 คน สามารถทนได้ถึง 10-15 ตัน (ถ้าหนังศีรษะก็แข็งแรงพออ่ะนะ :P)
  • เส้นผมแต่ละเส้นนั้นงอกได้เอง โดยมีวงจรชีวิตแตกต่างกันไป เพราะถ้าเส้นผมเรามีวงจรเหมือนกันหมด เราก็คงมีช่วงที่ต้องหัวล้านกันอย่างไม่ต้องสงสัย!!!
  • เส้นผมมีอัตราการแบ่งตัวแบบไมโตซิส (Mitosis) มากที่สุด เฉลี่ยแล้ว 0.3 มิลิเมตร ต่อวัน และ 1 เซนติเมตร ภายใน 1 เดือน !!!

 


 

ผมหงอกที่มักพบในคนสูงอายุเมื่อเกิดแล้วจะอยู่ถาวร  ส่วนผมหงอกที่กลับดำได้นั้นเป็นผมหงอกที่เกิดจากโรคภายในร่างกาย ถ้ารักษาโรคหายผมจึงกลับดำได้ โรคที่ทำให้เกิดผมหงอกได้ เช่น เบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคต่อมไทรอยด์ การบาดเจ็บและโรคของระบบประสาท ด่างขาว ผมร่วงเป็นหย่อม การล้มป่วยบางอย่างเช่น มาลาเรีย และเป็นไข้หวัดใหญ่   อายุที่เริ่มผมหงอกขึ้นกับกรรมพันธุ์   ในฝรั่งผิวขาวผมเริ่มหงอกครั้งแรกตั้งแต่อายุ 24 - 44 ปี  ในคนผิวดำเริ่มหงอกเมื่ออายุ 34 - 54 ปี ส่วนชาวเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นผมจะเริ่มหงอกตั้งแต่อายุ 30 - 40 ปี  ผมที่เริ่มหงอกตามวัยนี้ไม่สามารถกลับมาดำได้อีกเลย  ส่วน 'ผมที่หงอกก่อนวัย' นั้น ในฝรั่งถือว่าถ้าผมเริ่มหงอกก่อนอายุ 20 ปี  ในคนผิวดำ (คนนิโกร) ส่วนคนไทยถ้าผมเริ่มหงอกก่อนอายุ 30 ปี ก็จัดว่าเป็น 'ผมหงอกก่อนวัย' ซึ่งเป็นเรื่องตามธรรมชาติ คือเป็นกรรมพันธุ์เป็นส่วนใหญ่

 

การขาดสารอาหารบางตัว เช่น วิตามินบี12 อาจทำให้มีผมหงอกได้  ในบางกรณีความเครียดอาจทำให้ผมหงอกได้ บางคนเชื่อว่าความเครียดทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี  ถ้ากินวิตามินบีขนาดสูงอาจทำให้ผมหงอกกลับดำได้ การกินยาบางตัว เช่น คลอโรควิน อาจทำให้คนที่มีผมสีอ่อนหรือผมน้ำตาลแดงกลายเป็นสีขาวหรือผมหงอกได้ มีการทดลองในหนูพบว่าถ้าขาดสาร Pantothenic ทำให้ขนกลายเป็นสีขาวได้ วิธีแก้ปัญหาผมหงอกนั้นมีหลายอย่าง อย่างแรกคือไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้หงอกขาวอยู่นั่นแหละ หรือถ้าผมหงอกเฉพาะส่วนปลายผม คือหงอกปลายผมไม่เกิน 1 ใน 10 ก็อาจใช้การตัดซอยเอาเฉพาะส่วนปลายที่หงอกทิ้งไป วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผมเริ่มหงอกในช่วง 1 - 2 ปีแรก เพราะผมจะเริ่มหงอกเฉพาะส่วนปลายเท่านั้น  อีกวิธีหนึ่งก็คือการย้อมผม  โดยในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาผมหงอกที่เกิดตามวัยให้หายขาดได้

 

 

ข้อมูลจาก

http://www.loc.gov/rr/scitech/mysteries/grayhair.html

http://www.healthtoday.net/thailand/skin/skin_105.html

http://www.livestrong.com/article/167294-what-causes-white-hair-at-a-young-age/

 

ภาพจาก

http://www.rehairducation.com

http://www.teluguone.com/

https://utravioletholocaust.files.wordpress.com/2010/07/agml-m2l1n3n.jpg

http://2.bp.blogspot.com/-jeDnCrd5SeY/UMBF2pJ9LGI/AAAAAAAAALk/ywpG4w_VOiA/s640/Texture.jpg

http://media.tumblr.com/tumblr_m9ngjyC1xR1rv4ydw.gif

http://phyto-life.com/media/wysiwyg/kr_2014/growth-cycle.gif

http://i.ytimg.com/vi/ca6aKZPBonI/maxresdefault.jpg

หัวเรื่อง และคำสำคัญ
ผมหงอก,ผม,ขาว,เทา
ประเภท
Text
ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท.
บทความ
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
ลิขสิทธิ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วันที่เสร็จ
วันจันทร์, 01 มิถุนายน 2558
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
yrprincess
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
เคมี
ระดับชั้น
ม.1
ม.2
ม.3
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนต้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
กลุ่มเป้าหมาย
ครู
นักเรียน
บุคคลทั่วไป
  • 4431 ทำไม...ผมหงอก ?? (ผมเป็นสีเทา-ขาว) /article-chemistry/item/4431-2015-01-06-02-36-31
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
    • Share
    • Tweet
    • Share

ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
  • คำถามที่พบบ่อย
Scimath คลังความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)