logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทเรียน
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

ระบบประสาท (nervous system)

โดย :
อติโรจน์ ปพัฒน์เปรมสิริ
เมื่อ :
วันจันทร์, 22 พฤษภาคม 2560
Hits
142247
  • 1. Introduction
  • 2. การจำแนกเซลล์ประสาท
  • 3. การทำงานร่วมกันของเซลล์ประสาท
  • 4. ศูนย์กลางของระบบประสาท
  • 5. สมอง (Brain)
  • 6. โครงสร้างสมอง
  • 7. ไขสันหลัง (Spinal Cord)
  • 8. การทำงานของระบบประสาท
  • - All pages -

เซลล์ประสาท (Neuron) 

เซลล์ประสาท (neuron) ประกอบด้วยโครงสร้าง 2 ส่วน คือ 

1) ตัวเซลล์ประสาท (cell body) มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-25 ไมโครเมตร ประกอบด้วย

- นิวเคลียส (nucleus)

- ไซโทพลาสซึม (cytoplasm) มีโครงสร้างสำคัญได้แก่ ไมโทคอนเดรีย และ นิสซึลบอดี (nissl body) เป็นจุดสีน้ำเงินถ้าดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะเห็นเป็น RER ซึ่งมีไรโบโซมเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีไรโบโซมอิสระกระจายอยู่รอบๆ ทำหน้าที่สั้งเคราะห์โปรตีนออกไปใช้ตามแอกซอน (axon)

2) ใยประสาท (nerve fiber)

- เดนไดรต์ (dendrite) คือ ใยประสาทที่นำกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์

- แอกซอน (axon) คือ ใยประสาทที่นำกระแสประสาทออกจากตัวเซลล์

ข้อเปรียบเทียบระหว่างเดนไดรต์กับแอกซอน

1) เดนไดรต์มักจะมีจำนวนใยประสาทมากกว่าแอกซฮน

2) เดนไดรต์มักจะมีความยาวของใยประสาทสันกว่าแอกซอน

3) เดนไดรต์มักจะไม่มีเยื่อไมอีลินมาห่อหุ้มเหมือนแอกซฮน ยกเว้นเดนไดรต์ที่ยาว

4) เดนไดรต์มี nissl body ส่วนแอกซอนไม่มี

5) เดนไดรต์ไม่มีสารสื่อประสาท ส่วนแอกซอนมีสารสื่อประสาท

6) เดนไดรต์ส่งกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์ ในขณะที่แอกซอนนำกระแสประสาทออกจากเซลล์


Return to contents

การจำแนกเซลล์ประสาท

    1) จำแนกตามจำนวนขั้ว มี 3 แบบ คือ

    - เซลล์ประสาท 1 ขั้ว (unipolar neuron) ได้แก่ เซลล์รับความรู้สึกที่มีตัวเซลล์อยู่ที่ปมรากบนของไขสันหลัง

    - เซลล์ประสาท 2 ขั้ว (bipolar neuron) ได้แก่ เซลล์รับกลิ่นในจมูก เซลล์ที่เรตินาของนัยน์ตา เซลล์รับเสียงของหูตอนใน

    - เซลล์ประสาทหลายขั้ว (multipolar neuron) ได้แก่ เซลล์ประสาทประสานงาน เซลล์สั่งการ (พบในสมองและไขสันหลัง) เซลล์เหล่านี้มีมากที่สุด

    2) จำแนกตามหน้าที่การทำงานมี 3 แบบ คือ

    - เซลล์รับความรู้สึก (sensory neuron) เป็นเซลล์ที่นำกระแสประสาทจากหน่วยรับความรู้สึกเข้าไขสันหลังและสมอง เซลล์นี้อาจเป็นเซลล์ประสาท 1 ขั้ว หรือ 2 ขั้วก็ได้

    - เซลล์ประสาทสั่งการ (motor neuron) เป็นเซลล์ที่นำกระแสประสาทจากสองหรือไขสันหลังไปยังหน่วยปฎิบัติการ เซลล์นี้เป็นเซลล์ประสาทหลายขั้ว

    - เซลล์ประสาทประสานงาน (association neuron) เป็นเซลล์ที่รับกระแสประสาทจากเซลล์รับความรู้สึกแล้วส่งกระแสประสาทไปยังเซลล์สั่งการ เซลล์เหล่านี้เป็นเซลล์ประสาทหลายขั้ว


    Return to contents

    การทำงานร่วมกันของเซลล์ประสาท

    เซลล์ประสาทที่ทำงานร่วมกันจะผ่านทางไซแนปส์ (synaps) ซึ่งเป็นช่องว่างเล็กๆที่อยู่ระหว่างเซลล์ประสาทกับเซลล์ประสาท และเซลล์ประสาทกับหน่วยปฎิบัติการ (effectors)

    เมื่อกระแสประสาทเคลื่อนที่มาที่ปลายแอกซอน ถุงเล็กๆที่บรรจุสารสื่อประสาท (neurotransmitter) จะเคลื่อนที่ไปรวมกับเยื่อหุ้มเซลล์แล้วปล่อยสารสื่อประสาทแพร่กระจายออกมาข้ามไซแนปส์ไปยังปลายเดนไดรต์ของอีกเซลล์หนึ่ง จากนั้นสารสื่อประสาทก็จะไปเร้าให้มีกระแสประสาทเคลื่อนไปยังเซลล์ประสาทตัวต่อไป

    สารสื่อประสาทจำพวกอะซิทิลโคลีน (Acetyl choline) เมื่อไซแนปส์แล้วจะสลายตัวไปโดยการทำงานของเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส (cholinesterase) และสารสื่อประสาทเหล่านี้จะไม่พบที่ปลายของเดนไดรต์


    Return to contents

    ศูนย์กลางของระบบประสาท

    โปรติสต์

    - ไม่มีระบบประสาท

    - พารามีเซียมใช้เส้นใยประสานงาน (co-ordinating fiber) ควบคุมการโบกพัดของซีเลีย

    สัตว์

    - ร่างแหประสาท (nerve net) ยังไม่พัฒนามากเพราะ

    • ยังไม่มีศูนย์กลางของระบบประสาท
    • กระแสประสาทเคลื่อนที่ช้า
    • เมื่อถูกกระตุ้นเพียงบริเวณใดบริเวณหนึ่ง จะตอบสนองทั้งอวัยวะหรือร่างกาย
    • ทิศทางของกระแสประสาทไม่แน่นอน

    ร่างแหประสาทพบในสัตว์กลุ่มไนดาเรีย ดาวทะเล และผนังลำไส้ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง (ช่วยควบคุม peritalsis)

    - ปมประสาท (nerve ganglion) และเส้นประสาท (nerve cord)

    • พบในสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น พลานาเรีย แมลง ไส้เดือน กุ้ง หอย

    - สมอง (brain) และไขสันหลัง (spinal cord)

    • สมองและไขสันหลังเจริญมาจากหลอดประสาท (neural tube) ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดยาวไปตามแนวสันหลังตอนเป็นเอ็มบริโอ

    Return to contents

    สมอง (brain)

    - สมองอยู่ภายในกะโหลกศีรษะ

    - มีเยื่อหุ้มสมอง (meninges) ปกคลุมเนื้อสมอง แบ่งเป็น 3 ชั้นได้แก่

    1. ดูรามาเตอร์ (dura mater) ชั้นนอก

    2. อะแรคนอยด์ (arachnoid) ชั้นกลาง

    3. เพียมาเตอร์ (pia mater) ชั้นใน

    มีของเหลวเรียกว่า cerebrospinal fluid อยู่ภายในโพรงสมอง (ventricle) ทั้งหมด 4 แห่งดังภาพด้านล้าง และแทรกอยู่ระหว่างเยื่อชั้นกลางกับชั้นใน ของเหลวเหล่านี้ช่วยนำออกซิเจนและอาหารมาเลี้ยงเซลล์ประสาท ระบายของสียออกจากเซลล์ และเป็นเสมือนเกราะป้องกันการกระเทือนแก่สมองและไขสันหลัง

    - เยื่อหุ้มสมองชั้นใน (pia mater) มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่


    Return to contents

    โครงสร้างสมอง

    - สมองเปลือกนอก (cerebral cortex) เป็นเนื้อสีเทา ประกอบด้วยตัวเซลล์และแอกซอนที่ไม่มีเยื่อไมอีลิน

    - สมองด้านในหลายแห่งมีสีขาว ประกอบด้วยใยประสาทที่มีเยื่อไมอีลิน

    ส่วนประกอบสมองแบ่งเป็น 3 ส่วน คือสมองส่วนหน้า (forebrain) สมองส่วนกลาง (midbrain) และ สมองส่วนท้าย (hindbrain) ดังภาพ

    ตำเเหน่งสมองคน

    สมองส่วนหน้า

    1. ออลแฟกทอรีบัลบ์ (olfactory bulb) อยู่ด้านหน้าสุด

    หน้าที่ เกี่ยวข้องกับการดมกลิ่นโดยปลาและสุนัขจะมีสมองส่วนนี้ขนาดใหญ่ สมองส่วนนี้ในคนจะไม่เจริญเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น

    2. ซีรีบรัม (cerebrum) เป็นสมองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีรอยหยักมาก ทำหน้าที่

    1) เกี่ยวกับความคิด ความจำ และสติปัญญา

    2) ศูนย์กลางควบคุมการรับสัมผัสต่างๆ

    3) ศูนย์กลางควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ

    4) ศูนย์กลางควบคุมการพูดและการรับรู้ภาษา

    5) ศูนย์กลางการมองเห็น การรับรส การได้ยิน และการดมกลิ่น

    3. ทาลามัส (thalamus) อยู่เหนือไอโพทาลามัส

      หน้าที่ เป็นศูนย์รวมกระแสประสาทที่ผ่านเข้ามาและแยกกระแสประสาทไปยังสมองที่เกี่ยวข้องกับกระแสประสาทนั้น

      4. ไฮโพทาลามัส มีหน้าที่

      1) มีเซลล์ประสาทที่สร้างฮอร์โมน (neurosecretory cell) มาควบคุมต่อมใต้สมอง

      2) เป็นศูนย์ควบคุมอุณหภูมิ อารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ

      3) ควบคุมการนอนหลับ การเต้นของหัวใจ ความดันเลือด ความหิว ความอิ่ม

      สมองส่วนกลาง

      ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สมองส่วนกลางจะลดทั้งบทบาทและหน้าที่ลงเหลือเพียงถ่ายทอดกระแสประสาทระหว่างสมองส่วนหน้ากับสมองส่วนท้ายและระหว่างสมองส่วนหน้ากับนัยน์ตา

      หน้าที่

      1) ควบคุมการเคลื่อนไหวของนัยน์ตา ทำให้ลูกตากลิ้งกลอกได้

      2) ควบคุมการเปิดปิดของม่านตา

      สมองส่วนท้าย

      1. ซีรีเบลลัม (cerebellum) มีคลื่นสมองเช่นเดียวกับซีรีบลัม สมองส่วนนี้เจริญดีที่สุดในพวกนก

      หน้าที่ – ควบคุมการทรงตัว

      - ควบคุมและประสานงานการเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นไปอย่างราบรื่นสละสลวยและเที่ยงตรง สามารถทำงานที่ละเอียดอ่อนได้

      2. เมดัลลาออบลองกาตา (medulla oblongata)

      หน้าที่ เป็นศูนย์ควบคุมระบบประสารทอัตโนมัติต่างๆ

      3. พอนส์ (pons)

      หน้าที่ – เป็นทางผ่านของกระแสประสาทระหว่างซีรีบรัมกับซีรีเบลลัม และระหว่างซีรีเบลลัมกับไขสันหลัง

      - ควบคุมการทำงานบางอย่างเช่น การหลั่งน้ำย่อย การเคี้ยว การเคลื่อนไหวของใบหน้า

      เส้นประสาทสมอง (cranial nerves)

      เส้นประสาทสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงคนมี 12 คู่ (ปลาและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมี 10 คู่)

      - เส้นประสาทรับความรู้สึกคือคู่ที่ 1, 2, 8

      - เส้นประสาทสั่งการคือคู่ที่ 3, 4, 6, 11, 12

      - เส้นประสาทผสมคือคู่ที่ 5, 7, 9, 10


      Return to contents

      ไขสันหลัง (spinal cord)

      - ไขสันหลังอยู่ภายในกระดูกสันหลังที่แบ่งออกเป็นข้อๆ ทั้งหมด 31 ข้อ

      - มีเยื่อหุ้มไขสันหลัง 3 ชั้น เช่นเดียวกับเยื่อหุ้มสมอง

      - มีน้ำไขสันหลังเรียกว่า cerebrospinal fluid หล่อเลี้ยงอยู่ในช่องกลางไขสันหลัง แทรกระหว่างเยื่อชั้นกลางกับเยื่อชั้นใน

      โครงสร้างของไขสันหลัง (ภาคตัดขวาง)

      เนื้อสีเทา (ด้านใน)

      • มีรูปคล้ายผีเสื้อ
      • ปีกบนเรียกว่าดอร์ซัลฮอร์น (dorsal horn)
      • ปีกล่างเรียกว่าเวนทรัลฮอร์น (ventral horn)
      • มีตัวเซลล์และใยประสาททีทไม่มีเยื่อไมอีลิน

      เนื้อสีขาว (ด้านนอก)

      • มัดใยประสาทที่ส่งประแสประสาทไปสมอง
      • มัดใยประสาทที่นำคำสั่งจากสมองมายังไขสันหลังข้อต่างๆ
      • มีใยประสาทที่มีเยื่อไมอีลิน
      • ไม่มีตัวเซลล์ประสาท

      เส้นประสาทไขสันหลังของคนมี 31 คู่ ทุกคู่เป็นเส้นประสาทผสม


      Return to contents

      การทำงานของระบบประสาท

      ระบบประสาทของสัตว์มีกระดูกสันหลังชั้นสูงแบ่งได้เป็น

      1. แบ่งตามโครงสร้าง แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ

        1.1 ระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system) ได้แก่สมองและไขสันหลัง

        1.2 ระบบประสาทรอบนอก (peripheral nervous system) ได้แก่เส้นประสาทสมองและไขสันหลัง

        2. แบ่งตามหน้าที่การทำงาน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

        2.1 ระบบประสาทใต้อำนาจจิตใจ (voluntary nervous system) เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อลาย โดยอาศัยคำสั่งจากสมองส่วนซีรีบรัม (การทำงานของกล้ามเนื้อลายบางชนิดอาจอยู่นอกอำนาจจิตใจเช่น การกระตุกของขาเมื่อถูกเคาะเอ็นที่หัวเข่า)

        2.2 ระบบประสาทที่ทำงานนอกอำนาจจิตใจ (involuntary nervous system) หรือระบบประสาทอัติโนวัติ (autonomic nervous system) เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบ และต่อมต่างๆ ประกอบด้วย

        • ระบบประสาทซิมพาเทติก (syspathetic system)

        - เส้นประสาทที่ควบคุมหน่วยปฏิบัติการมาจากไขสันหลัง

        - สารสื่อประสาทที่หลั่งมาควบคุมหน่วยปฎิบัติการได้แก่ อะดรีนาลิน

        • ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (parasympathetics system)

        - เส้นประสาทที่ควบคุมหน่วยปฏิบัตการมาจากสมองส่วนกลาง เมดัลลาออบลองกาตา และไขสันหลัง

        - สารสื่อประสาทที่หลังมาควบคุมหน่วยปฎิบัติการคือ อะซิทิลโคลีน

        ข้อสังเกต

        1. ทั้งระบบซิมพาเทติกกับพาราซิมพาเทติกเป็นระบบสั่งการประกอบด้วยเซลล์สั่งการ 2 เซลล์ ยกเว้น ยกเว้นอะดรีนัลเมดัลลาจะมีเพียงเซลล์สัง่การชนิดเดียว

        2. หน่วยปฏิบัติการที่ถูกควบคุมโดยระบบประสารทซฺมพาเทติกอย่างเดียวไม่มีระบบประสาทพาราซิมพาเทติกมาควบคุมได้แก่ อะดรีนัลเมดัลลา และต่อมเหงื่อ

        วงจรการทำงานของเซลล์ประสาท

        รีเฟลกซ์อาร์ก (reflex arc) คือวงจรการทำงานของเซลล์ประสาทที่อาศัยอย่างน้อย 2 เซลล์ (เซลล์รับความรู้สึกกับเซลล์สั่งการ) ขี้นไปในการควบคุมหน่วยปฏิบัติการ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ

        1.โมโนไซแนปติกรีเฟลกซ์อาร์ก (monocynaptic reflex arc) คือวงจรที่เซลล์รับความรู้สึก 1 เซลล์มาไซเนปส์กับเซลล์สั่งการ 1 เซลล์เท่านั้น เช่น รีเฟลกซ์ของการกระตุกขาเมื่อเคาะเอ็นใต้หัวเข่า (knee jerk reflex)

        2.โพลีไซแนปติกรีเฟลกซ์อาร์ค (polysynaptic reflex arc) คือวงจรที่มีเซลล์ประสานงาน (อาจมี 1 เซลล์หรือหลายเซลล์) มาเชื่อมระหว่างเซลล์รับความรู้สึกกับเซลล์สั่งการ เช่น รีเฟลกซ์ของการกระตุกขาหนีเมื่อเหยียบก้นบุหรี่


        Return to contents
        Previous Page 1 / 8 Next Page
        หัวเรื่อง และคำสำคัญ
        ระบบประสาท,nervous system,ตัวเซลล์ประสาท ,ใยประสาท
        ประเภท
        Text
        รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
        สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
        ลิขสิทธิ์
        สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
        วันที่เสร็จ
        วันจันทร์, 22 พฤษภาคม 2560
        ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
        อติโรจน์ ปพัฒน์เปรมสิริ
        สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
        ชีววิทยา
        ระดับชั้น
        ม.4
        ม.5
        ม.6
        ช่วงชั้น
        มัธยมศึกษาตอนปลาย
        กลุ่มเป้าหมาย
        ครู
        นักเรียน
        • 7048 ระบบประสาท (nervous system) /lesson-biology/item/7048-nervous-system
          เพิ่มในรายการโปรด
        • ให้คะแนน
          Average rating
          • 1
          • 2
          • 3
          • 4
          • 5
          • Share
          • Tweet
          • Share

        ค้นหาบทเรียน
        กลุ่มเป้าหมาย
        ระดับชั้น
        สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
        การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
        • บทเรียนทั้งหมด
        • ฟิสิกส์
        • เคมี
        • ชีววิทยา
        • คณิตศาสตร์
        • เทคโนโลยี
        • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
        • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
        • สะเต็มศึกษา
        • อื่น ๆ
        • เกี่ยวกับ SciMath
        • ติดต่อเรา
        • สรุปข้อมูล
        • แผนผังเว็บไซต์
        • คำถามที่พบบ่อย
        Scimath คลังความรู้

        สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

        The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

        Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
        อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)