logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทเรียน
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

ความหลากหลายทางชีวภาพ

โดย :
อติโรจน์ ปพัฒน์เปรมสิริ
เมื่อ :
วันอังคาร, 23 พฤษภาคม 2560
Hits
128979
  • 1. Introduction
  • 2. การเเบ่งกลุ่มสิ่งมีชีวิตใหม่กับโดเมนที่เพิ่มขึ้นมา
  • 3. อาราจักรยูแบคทีเรีย (Kingdom Eubacteria)
  • - All pages -

อนุกรมวิธานเเละความหลากหลายทางชีวภาพ

ความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) เเบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

1.ความหลากหลายทางพันธุกรรม (genetic diversity) เป็นความแปรผันทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน

2.ความหลากหลายทางชนิด (species diversity) เป็นความแปรผันที่เกิดขึ้นในระดับกลุ่มของสิ่งมีชีวิต

3.ความหลากหลายทางระบบนิเวศ (ecological diversity) เป็นความหลากหลายของระบบนิเวศแต่ละแหล่ง เช่น ระบบนิเวศบนบก ระบบนิเวศเเหล่งน้ำ

เนื่องจากสิ่งมีชีวิตมีจำนวนมากมายหลายชนิด ดังนั้นวิชาที่กล่าวถึงการจัดลำดับจะเรียกว่าอนุกรมวิธาน (taxonomy) วิชาดังกล่าวประกอบด้วย

1.การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต (classification)

2.การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต (nomenclature)

3.การระบุชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตหรือหน่อยอนุกรมวิธานของสิ่งมีชีวิต (identification)

1. การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต (classification)

นักอนุกรมวิธานจะมีการจัดลำดับขั้นของกลุ่มสิ่งมีชีวิตตามความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการและความเหมือนกันทั้งในด้านรูปร่าง สัณฐานวิทยา และหลักฐานทางชีวโมเลกุล โดยการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตจะมีลำดับขั้น (hierarchy) ต่างๆดังต่อไปนี้

แต่ละลำดับขั้นอาจจะจัดลำดับย่อยลงไปอีก เพื่อเพิ่มรายละเอียดในการจัดจำแนก เช่น subclass หรือ subphylum

การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต (nomenclature)

ชื่อของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกได้เป็น 3 ระบบหลัก คือ

1.ชื่อพื้นเมือง (vernacular name) – ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ

2.ชื่อสามัญ (common name) – ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ

3.ชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name) – ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อพื้นเมืองและชื่อสามัญ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจตรงกันได้

หลักการในการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตสรุปได้ดังนี้

1.ใช้เป็นภาษาละตินเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นภาษาอื่นจะต้องทำให้เป็นภาษาละตินก่อน

2.ชื่อแรกเป็นชื่อของจีนัส (generic name) ส่วนชื่อหลังเป็นชื่อระบุชนิด (specific epithat) ตามหลัก binomial nomenclature ของลินเนียส

3.ชื่อของจีนัส (generic name) พยัญชนะตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ชื่อระบุชนิด (specific epithat) จะใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด

4.การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ทำได้ 2 แบบคือเขียนโดยใช้การขีดเส้นใต้ชื่อวิทยาศาสตร์ทั้งสองส่วนโดยที่เส้นทั้งสองไม่ติดกัน เช่น Homo sapiens หรือ ใช้ตัวเอียง (italic) แทนได้ เช่นHomo sapiens

5.ชื่อที่ถูกต้องของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆ (correct name) จะมีได้เพียงชื่อเดียว หากตั้งซ้ำที่เหลือชื่อจะเรียกว่า ชื่อพ้อง (synonym)

6.ถ้าทราบชื่อผู้ที่ตั้งชื่อ (author name) จะต้องลงชื่อของผู้ตั้งชื่อ ด้วยตัวพิมพ์ธรรมดาขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ แต่ไม่ต้องเอียงหรือขีดเส้นใต้ และใส่ปีที่มีการตีพิมพ์ผลงานการค้นพบท้ายชื่อ คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค

ชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากอาจจะมีการบอกลักษณะ แหล่งที่พบ หรือตั้งให้เป็นเกียรติกับบุคคลอื่น ตัวอย่างเช่น

ปูเจ้าพ่อหลวง Potamon bhumibol bhummibol ตั้งให้เป็นเกียติกับพระเจ้าอยู่หัว

หอยทากสยาม Cryptozona siamensis siamensis เป็นการบ่งบอกแหล่งที่อยู่ในไทย

การระบุชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต (Identification)

ไดโคโตมัสคีย์ (dichotomous key) เป็นเครื่องมือที่นักอนุกรมวิธานใช้ในการตรวจสอบชื่อวิทยาศาสตร์หรือกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่กำลังศึกษา โดยทั่วไปไดโคโตมัสคีย์จะประกอบด้วย 2 ทางเลือกโดยจะพิจารณาจากลัษณะที่เห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในบางครั้งนักอนุกรมวิธานจะใช้เป็นรูปภาพแทนในการจัดจำแนกก็ได้ (pictorial key)


Return to contents

การแบ่งกลุ่มสิ่งมีชีวิตใหม่กับโดเมนที่เพิ่มขึ้นมา

ในอดีต การจัดสิ่งมีชีวิตเป็นหลัก โดยจะแบ่งออกเป็น 6 อาณาจักรใหญ่ คือ

1.อาณาจักรยูแบคทีเรีย (kingdom Eacteria)

2.อาณาจักรอาร์เคีย (kingdom Archaea)

3.อาณาจักรโปรติสตา (kingdom Protista)

4.อาณาจักรพืช (kingdom Plantae)

5.อาณาจักรฟังไจ (kingdom Fungi)

6.อาณาจักรสัตว์ (kingdom animaia)

เเต่ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้หลักฐานทางพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุลทำให้จำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็น 3 โดเมน คือ

1.โดเมนยูแบคทีเรีย (Domain Eubacteria) – แบคทีเรียทั่วไปที่พบในธรรมชาติ

2.โดเมนอาร์เคีย (Domain Archaea) – แบคทีเรียโบราณที่พบในสภาพแวดล้อมรุนแรง

3.โดเมนยูคาเรีย (Domain Eukarya) – โพรติสต์ ฟังไจ พืช และสัตว์

ความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตทั้ง 3 โดเมนสามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้

ข้อเปรียบเทียบ

โดเมนยูแบคทีเรีย

โดเมนอาร์เคีย

โดเมนยูคาเรีย

นิวเคลียสและเยื่อหุ้ม

ไม่มี

ไม่มี

มี

ออร์แกแนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม

ไม่มี

ไม่มี

มี

สาร peptidoglycan บนผนังเซลล์

มี

ไม่มี

ไม่มี

ไรโบโซม

70s

70s

80s

ลักษณะของโครโมโซม

วงแหวน

วงแหวน

ปลายเปิด

โปรตีนฮิสโตนบนสาย DNA

ไม่มี

มี

มี

พลาสมิด

มี

มี

ไม่มี

จำนวนชนิดของ RNA polymerase

1

1

3

การตอบสนองของไรโบโซมต่อยาปฏิชีวนะ

มี

ไม่มี

ไม่มี

 


Return to contents

อาราจักรยูแบคทีเรีย (kingdom Eubacteria) 

ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอาณาจักรยูแบคทีเรีย สรุปได้ดังนี้

มีเซลล์เดียวและมีเซลล์เป็นแบบโพรคาริโอต DNA ที่มีลักษณะเป็นวงปิด (circular DNA) และไม่มีโปรตีนฮิสโตน มีรูปทรง 3 แบบ คือ รูปทรงกลม (coccus) รูปทรงท่อน (bacilus) รูปทรงเกลียว (spirillum) ผนังเซลล์ของแบคทีเรียเป็นสารประเภท peptidoglycan ยกเว้นในแบคทีเรียกลุ่ม mycoplasma ที่ไม่มีผนังเซลล์เป็นองค์ประกอบ มีการดำรงชีวิตได้หลากหลายเช่น เป็นปรสิต หรือสังเคราะห์ด้วยแสงได้ ตัวอย่างเช่น กลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย (cyanobacteria) มีการสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ (asexual reproduction) ด้วยการแบ่งตัวออกเป็น 2 (binary fission) แต่บางชนิดอาจจะมีการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมได้ (conjugation)

แบคทีเรียสามารถแบ่งจำแนกออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักตามความสามารถในการย้อมติดสีของผนังเซลล์ คือ

แบคทีเรียแกรมบวก (gram-positive bacteria) กลุ่มที่มีชั้น peptidoglycan หนา ย้อมติดสีมาวงของ crystal violet

แบคทีเรียแกรมลบ (gram-negative bacteria) กลุ่มที่มีชั้น peptidoglycan บางคั่นอยู่ระหว่างเมมเบรนสองชั้น ย้อมติดสีแดงของ safanin-0

บทบาทของสิ่งมีชีวิตในกลุ่มยูแบคทีเรีย

ผู้ย่อยสลาย (decomposer) ที่สำคัญในระบบนิเวศ ช่วยในการหมุนเวียนสารต่างๆ

แบคทีเรียบางกลุ่ม เช่น cyanobacteria สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงช่วยเพิ่มแก๊สออกซิเจนแบคทีเรียบางกลุ่มสามารถเกิดการตรึงแก๊สไนโตรเจน สามารถนำมาใช้ปรับปรุงคุณภาพของดินแบคทีเรียหลายชนิดถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การผลิตน้ำส้มสายชู นมเปรี้ยว เยแข็ง โยเกิร์ต ปลาร้า ปลาส้ม ผักดอง เป็นต้น

แบคทีเรียปัจจุบันถูกนำมาใช้ในทางพันธุวิศวกรรม (genetic engineering)

ยูแบคทีเรียแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

1. กลุ่มโพรทีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria)

-เป็นยูแบคทีเรียแกรมลบที่พบมากที่สุด

-มีกระบวนการเมแทบอลิซึมที่หลากหลาย เช่น สังเคราะห์ด้วยเเสงได้เอง

- ตัวอย่างเช่น เพอเพิลซัลเฟอร์แบคทีเรีย (purple sulfur bacteria) Rhizobium sp. ในปมรากของพืชตระกูลถั่ว เป็นต้น

2.กลุ่มคลาไมเดีย (Chlamydias)

-เป็นปรสิตในเซลล์และทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคโกโนเรียหรือหนองใน เป็นต้น

3 กลุ่มสไปโรคีท (Spirochetes)

-เป็นแกรมลบที่มีรูปทรงเกลียว มีความยาวประมาณ 0.25 มิลลิเมตร

-เป็นสาเหตุของ โรคซิฟิลิส โรคฉี่หนู เป็นต้น

4 แบคทีเรียแกรมบวก (Gram-Positive Bacteria)

-พบแพร่กระจายทั่วไปในดิน อากาศ

-บางสปีชีส์สามารถผลิตกรดแลกติกได้ เช่น Lactobacillus sp. จึงนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด เช่น การทำเนย ผักดอง และโยเกิร์ต เป็นต้น

-ใช้ยาทำปฏิชีวนะ เช่น Streptomyces sp.

5. ไซยาโนแบคทีเรีย (Cyanobacteria)

-สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ มีสารสีเช่น คลอโรฟิลล์เอ แคโรทีนอยด์

-พบแพร่กระจายในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทั้งในแหล่งน้ำจืด น้ำเค็ม บางสปีชีส์พบในบ่อน้ำพุร้อน และภายใต้น้ำแข็งของมหาสมุทร เป็นต้น

-จากหลักฐานซากดึกดำบรรพ์ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนได้ว่าไซยาโนแบคทีเรียทำให้ออกซิเจนในบรรยากาศเพิ่มขึ้น มากขึ้นในโลกยุคนั้นและก่อให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่หายใจโดยใช้ออกซิเจนในปัจจุบัน


Return to contents
Previous Page 1 / 3 Next Page
หัวเรื่อง และคำสำคัญ
ชีวภาพ,biodiversity,ความหลากหลายทางชีวภาพ,ความหลากหลายทางพันธุกรรม,ความหลากหลายทางชนิด,ความหลากหลายทางระบบนิเวศ
ประเภท
Text
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
ลิขสิทธิ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
วันที่เสร็จ
วันอังคาร, 23 พฤษภาคม 2560
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
อติโรจน์ ปพัฒน์เปรมสิริ
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
ชีววิทยา
ระดับชั้น
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
กลุ่มเป้าหมาย
ครู
นักเรียน
  • 7055 ความหลากหลายทางชีวภาพ /lesson-biology/item/7055-2017-05-23-14-39-52
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
    • Share
    • Tweet
    • Share

ค้นหาบทเรียน
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
  • คำถามที่พบบ่อย
Scimath คลังความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)