ระบบภูมิคุ้มกัน (Immunology)
ภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology) = วิชาที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม หรือที่เรียกว่า แอนติเจน (Antigen)
Antigen (Ag) = สิ่งแปลกปลอม หรือของใหม่ ซึ่งมาได้จาก
- Self antigen = เซลล์หรือเนื้อเยื่อของเราที่พัฒนาขึ้นเป็นสิ่งแปลกปลอม
- ส่วนประกอบของเซลล์ที่แก่ตัวลง
- Tumor antigens = เซลล์เนื้อร้าย หรือเซลล์มะเร็ง
^^ จริงๆ แล้วคำว่า Immunity มาจากภาษาละตินคำว่า immunis ที่แปลว่ายกเว้น นั้นคือหากเป็นโรคนั้นแล้วจะไม่เป็นโรคนั้นอีก ^^
Innate immunity
การตอบสนองต่อ Ag ที่มาจากภายนอกร่างกายในช่วง 6-12 ชั่วโมงแรกจะเป้นการตอบสนองแบบสัญชาติญาณ (Innate immunity) โดย
- อาศัยเซลล์และสารคัดหลั่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
- แต่จะไม่มีความจำเพาะเชื้อโรค
- ซึ่งเป็นด่านป้องกัรด่านแรกให้กับร่างกายของเรา
- Innate immunity (ภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ) ประกอบด้วย
- anatomical barrier เช่น ผิวหนัง, normal flora
- mechanical เช่น การไอ จาม
- biochemical เช่น การเป็นกรดของกระเพาะอาหาร
- ประกอบด้วยเซลล์พวก Basophil, Eosinophil, Neutrophil, mast cell
macrophage
Acquired immunity
เป็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนที่ต้องอาศัยเวลา แต่มีความจำเพาะ (specificity) ต่อเชื้อโรค และมีความจำเกิดขึ้น (memory) ทำให้สามารถทำลายเชื้อโรคได้ไวมากขึ้น
Adaptive Immunity (ภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ) มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในการทำลายสิ่งแปลกปลอมดังนี้
- แบบเซลล์ เช่น WBC
- แบบ humoral เช่น Ag
**ประกอบด้วยเซลล์พวก T lymphocyte, B lymphocyte, NK cell
**T cell รับผิดชอบด้าน cell-mediated immunity และ B cell รับผิดชอบด้าน humoral immunity
กลับไปที่เนื้อหา
Immunoglobulin
Antibody (Ab) คือ สาร glycoprotein เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อ antigenic determinant ที่แปลกปลอม Ab ส่วนใหญ่อยู่ใน serum ส่วน γ-globulin และเนื่องจาก Ab เป็น globulin ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงเรียกว่า Immunoglobulin (Ig) ซึ่งมี 5 ชนิด คือ IgG, IgA, IgM, IgD และ IgE
คุณสมบัติของ Ig
Ig มีหน้าที่ 2 แบบ คือ จับกับ Ag โดยใช้ส่วน V region และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ โดยใช้ส่วน C region คุณสมบัติของ Ig แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันไป ดังนี้
IgG มีปริมาณมากที่สุดใน serum มีความสำคัญ ดังนี้
- เป็น Ig ชนิดเดียวที่สามารถผ่านรกได้ จึงเป็น Ig สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในทารกแรกคลอด
- IgG3 มีความสามารถสูงที่สุดในการตรึง complement
- ส่วน Fc ของ IgG สามารถจับกับตัวรับบน macrophage เพื่อเพิ่มกระบวนการ opsonization ได้
- กำจัดแบคทีเรีย ไวรัส และ toxin
- ถูกสร้างมากที่สุดเมื่อมี secondary immune response
IgA พบใน serum และ secretion ของร่างกาย IgA ใน serum ส่วนใหญ่อยู่ในรูป monomer ส่วน IgA ที่พบมากที่สุดจะพบใน secretion เรียกว่า secretory IgA (sIgA) ส่วนใหญ่อยู่ในรูป polymer โดยมี J chain เชื่อม H chain ของ 2 โมเลกุลเข้าด้วยกัน นอกจากนั้นยังมี polypeptide อีกสายหนึ่งที่เรียกว่า Sc chain เกาะอยู่ระหว่าง H chain 2 โมเลกุลด้วย ซึ่งช่วยป้องกัน IgA จากการถูกทำลายโดย enzyme ย่อยโปรตีน โดย IgA มีความสำคัญ ดังนี้
- sIgA พบมากที่สุดที่ colostrum ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติที่ถ่ายทอดภูมิคุ้มกันจากมารดาไปสู่ทารกหลังคลอด เพื่อป้องกันการติดเชื้อจุลชีพ
- sIgA เป็น first line of defense ของระบบทางเดินอาหาร และหายใจ เพราะ sIgA จะเคลือบอยู่ตามทางเข้าของสิ่งแปลกปลอม
IgM มักพบในรูป pentamer โดยเชื่อมกันโดย disulfide bond และ J chain โดย IgM มีความสำคัญ ดังนี้
- เป็นชนิดแรกที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อได้รับ Ag ครั้งแรก
- เป็นชนิดแรกที่ทารกสร้างขึ้นได้เอง
- มีความจำเพาะเป็นพิเศษต่อ lipopolysaccharide (LPS)
- natural antiody ส่วนใหญ่เป็น IgM
- เป็น first line defense ของระบบทางเดินอาหาร เช่นเดียวกับ sIgA
- เป็น first line defense ต่อจุลชีพที่เข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือด
- สามารถตรึง complement ได้ดีกว่า Ig ชนิดอื่นๆ
IgD พบน้อยมากใน serum ถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน และ enzyme ย่อยโปรตีน มีความสำคัญ คือ ช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงการผลิต H chain ชนิดต่างๆ บนผิวของ mature B cells
IgE พบได้ใน secretion ของร่างกาย และพบน้อยมากใน serum มีหน้าที่สำคัญ ดังนี้
- เป็นตัวร่วมที่ทำให้เกิด hypersensitivity type I โดยจับกับ mast cells แล้วกระตุ้นให้เกิด degranulation
- จะพบมากใน serum เมื่อมีการติดเชื้อหนอนพยาธิ
Ig ถูกทำลายใน granulocytes และ reticuloendothelial cells ของตับ และของระบบทางเดินอาหาร และบางส่วนถูกขับออกทางลำไส้และไตด้วย
กลับไปที่เนื้อหา
-
7030 ระบบภูมิคุ้มกัน (Immunology) /index.php/lesson-biology/item/7030-immunologyเพิ่มในรายการโปรด
-
คำที่เกี่ยวข้อง