logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ

โดย :
myfirstbrain
เมื่อ :
วันพุธ, 10 สิงหาคม 2554
Hits
23617

ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ



เราไม่ได้อยู่อย่างโดด เดี่ยวต่อไปอีกแล้ว! ความจริงตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 มีการค้นพบดาวเคราะห์ และก็ได้มีการค้นพบดาวเคราะห์มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงพูดได้ว่า ระบบดาวเคราะห์เป็นเพียงสิ่งธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นอะไร แต่ดาวเคราะห์เหล่านี้เราไม่ได้เห็นได้โดยตรง แต่สามารถตรวจได้จากการที่มันรบกวนต่อการเคลื่อนที่ของดาวฤกษ์ที่มัน โคจรรอบอยู่ ดาวเคราะห์ที่พบส่วนใหญ่เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ และเรายังไม่พบดาวที่เหมือนกับโลก ดาวบางดวงล้อมรอบด้วยฝุ่นและอาจก่อกำเนิดระบบสุริยะใหม่ก็ได

วิธีการค้นหาดาวเคราะห์

ดาวเคราะห์รอบพัลซาร์ (Pulsar Timing)

ในช่วงสุดท้ายของชีวิตดาว ดาวที่มีมวล 15 - 30 เท่าของดวงอาทิตย์ จะระเบิดเป็นซุปเปอร์โนวาและซากที่เหลือเรียกว่า "ดาวนิวตรอน" (neutron star) (ถ้ามวลน้อยกว่านี้จะกลายเป็นดาวแคระขาว แต่ถ้ามากกว่าจะเป็นหลุมดำ) บางครั้งสนามแม่เหล็กและแกนหมุนของดาวนิวตรอนจะไม่ตรงกัน เมื่อมันไม่ตรงกันก็จะส่งคลื่นวิทยุมาโลกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วง 2 มิลลิวินาที ถึง 2 วินาที ดาวนิวตรอนประเภทนี้จะเรียกว่า พัลซาร์ (pulsars)

สัญญาณจากพัลซาร์แรงขึ้นในบางครั้ง โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 1 วินาทีต่อ 10 ล้านปี ด้วยเหตุนี้ ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยของช่วงเวลา จะเป็นผลเนื่องจากการโคจรของดาวเคราะห์รอบดาว ดาวเคราะห์ที่มีมวลเท่าโลกหรือมากกว่าสามารถตรวจสอบได้ ดาวเคราะห์นอกระบบที่ค้นพบก็ใช้วิธีนี้ (โดย Wolszczan และ Frail ในปี 1992, reference) มีการคิดว่าดาวเคราะห์ที่เกิดในระบบนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกิดซุปเปอร์โนวา แล้ว

การวัดความเร็วในแนวรัศมี (Radial Velocity Measurement)

ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์จะดึงให้ดาวส่ายจากจุดศูนย์กลางมวลของ 2 วัตถุ ถ้าระบบอยู่ในแนวระนาบกับโลก การเคลื่อนที่เข้าและออกจากผู้สังเกตจะทำให้เกิดการการเลื่อนของแสงสี น้ำเงินและสีแดง ตามลำดับ (ดูรูปประกอบ) กล้องโทรทรรศน์ที่ติดสเปกโทรมิเตอร์ (spectrometers) ที่มีความละเอียดสูงก็สามารถวัดการเลื่อนเพียงเล็กน้อยนี้ได้ จากเส้นสเปกตรัมของดาว ด้วยเหตุนี้ การวัดความเร็วในแนวรัศมีจึงมีอีกชื่อว่า ดอปเปลอร์สเปกโทรสโคป (doppler spectroscopy)



เพราะการเคลื่อนที่ของดาวที่เกิดขึ้นจาดดาวเคราะห์นั้นน้อยมาก วิธีนี้จึงเหมาะที่สุดสำหรับการหาดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่มีวงโคจรใกล้ดาว สำหรับดาวที่มีมวลเท่าๆ กับดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์อยู่ห่าง 1 AU มีวงโคจรที่หันด้านข้างเข้าหาโลก (edge-on) จะต้องมีมวลอย่างน้อยที่สุด 67 เท่าของโลกจึงจะตรวจพบได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนมากดาวเคราะห์ค้นพบโดยวิธีนี้ รวมทั้งที่เรียกว่า ดาวพฤหัสร้อน (hot Jupiters) ดาวเคราะห์แก๊สขนาดใหญ่ ที่อยู่ดาวฤกษ์มากกว่าที่ดาวเคราะห์จะเกิดได้ มีดาวเคราะห์หลายดวงที่ค้นพบด้วยวิธีนี้ โดยมี Geoff Marcy เป็นหัวหน้าทีม Marcy เป็นสมาชิกคนหนึ่งใน STARE Project collaborator

แอสโตรเมทรี (Astrometry)

ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวจะดึงดาวฤกษ์ด้วย ถ้าระบบนั้นหันหน้าเข้าหาเรา (face-on) และดาวเคราะห์นั้นมีมวลมากพอ การเคลื่อนที่เพียงเล็กนั้นก็สามารถตรวจพบได้โดยแอสโตรเมทรี (astrometry) จากภาพด้านล่าง ดาวเคราะห์เคลื่อนตามวงโคจรของมัน (จุดสีแดง) ดาวฤกษ์โคจรรอบจุดศูนย์กลางมวล เรียกว่า "แบรีเซนเตอร์" (bary center) (เครื่องหมาย +) ในระบบจริงดาวฤกษ์มีมวลมากกว่าดาวเคราะห์มาก แบรีเซนเตอร์จึงอยู่ในดาวฤกษ์และเส้นทางที่มันเคลื่อนที่ (เส้นสีน้ำเงิน) จะน้อยกว่าวงกลม แอสโตรเมทรีจะใช้ได้กับการวัดตำแหน่งของดาวที่แม่นยำมากเท่านั้น



เลนส์ความโน้มถ่วง (Gravitational Lensing)

เลนส์ความโน้มถ่วง จะเกิดขึ้นเมื่อแสงจากวัตถุที่อยู่ด้านหลังโค้ง เนื่องจากแรงดึงดูดจากวัตถุที่อยู่ด้านหน้า ในอดีตปรากฏการณ์นี้ ใช้ศึกษาแสงจากกาแลคซีที่จางและอยู่ไกล ซึ่งแสงจะโค้งเข้าหาอีกอันหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสามารถพบปรากฏการณ์นี้ของดาวในบริเวณกลางกาแลคซีของ เรา กราฟแสง (light curve) จากความโน้มถ่วงของดาว (stellar lensing) จะเรียบ ดังนั้น เมื่อมันมีดาวเคราะห์ที่สว่างพอ ซึ่งเคลื่อนที่หลังเลนส์ ก็จะเกิดการรบกวนแสงดาว ดังภาพด้านล่าง




เพื่อที่จะดูการทรานสิตนี้ กล้อง STARE จะต้องถ่ายภาพบริเวณเดียวกันตลอดทั้งคืน หลายคืนติดต่อกันเพื่อให้ได้หลายตำแหน่งส่วนมากจะใช้เวลา 3 เดือน เมื่อการถ่ายภาพเสร็จลงข้อมูลมากมายก็จะถูกจัดการโดยซอฟแวร์ หลังจากแก้ไขความผิดปกติและสัญญาณรบกวนแล้ว ก็จะสร้างกราฟแสงของดาวหลายพันดวงในบริเวณนี้ ซอฟแวร์อื่นจะถูกนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล หาดาวแปรแสงและดาวที่อาจเกิดทรานสิต มันจะต้องใช้ 2 หรือมากกว่าช่วงทรานสิต เพื่อหาคาบของทรานสิต หรือความแปรผัน วิธีนี้เหมาะสำหรับหาดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ที่เหมือนดวงอาทิตย์ ผลที่ได้จากจากวิธีหาความเร็วแนวรัศมีแสดงให้เห็นว่าระบบดาวเคราะห์นี้เป็น ระบบที่ธรรมดา


ที่มาข้อมูล : http://www.astroschool.in.th



หัวเรื่อง และคำสำคัญ
ดาว,เคราะห์,ระบบ,สุริยะ
ประเภท
Text
ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท.
บทความ
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
ลิขสิทธิ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
วันที่เสร็จ
วันพุธ, 10 สิงหาคม 2554
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
myfirstbrain
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
ระดับชั้น
ป.5
ป.6
ม.1
ม.2
ม.3
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
ประถมศึกษาตอนปลาย
มัธยมศึกษาตอนต้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
กลุ่มเป้าหมาย
ครู
นักเรียน
บุคคลทั่วไป
  • 2138 ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ /article-earthscience/item/2138-planets-outside-the-solar-system
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
    • Share
    • Tweet
    • Share

ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
  • คำถามที่พบบ่อย
Scimath คลังความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)