ผกากรอง.....สวยจริงแต่พิษร้าย

สุนทร  ตรีนันทวัน

ผกากรอง ฟังชื่อแล้วหลายคนคิดว่าเป็นชื่อของผู้หญิงหรือหญิงสาว  ซึ่งก็มีผู้หญิงที่ชื่อผกากรองกันมาก  แต่ที่จะกล่าวในที่นี้ผกากรอง เป็นชื่อพืชครับ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า แลนทานา  คามารา (Lantana camara Linn.)  อยู่ในวงศ์ เวอร์บีนาซีอี (Verbenaceae)   มีชื่ออื่นๆเรียกกันตามท้องถิ่น  เช่น  เบญจมาศป่า  มะจาย  ก้ามกุ้ง  ดอกไม้จีน  สาบแร้ง  ยี่สุ่น  เป็นต้น  มีลักษณะเด่นคือ เป็นไม้พุ่ม  มีลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม  ใบเป็นแบบใบเดี่ยว  ขอบใบหยัก  ด้านท้องใบมีขนเล็กๆ  ผลมีขนาดเล็กรูปร่างกลม ผลอ่อนมีสีเขียว  เมื่อแก่จะมีสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ  ออกดอกเป็นช่อเรียงตัวเป็นรูปกลมๆ  มีดอกย่อยๆจำนวนมาก  กลีบดอกมีหลายสี  เช่น  ขาว  เหลืองนวล  ชมพู  ส้ม  แดง  หรือมีสองสีในดอกเดียวกัน ดูสวยงามมาก  จึงนิยมนำมาตั้งชื่อลูกสาว

ลักษณะของดอกผกากรอง

ผกากรองมีทั้งคุณประโยชน์และโทษมหันต์เช่นกัน แพทย์หญิง  ดวงรัตน์  เชี่ยวชาญวิทย์ ซึ่งเป็นแพทย์ทางสมุนไพรที่มีชื่อเสียง แห่งโรงพยาบาลบางกระทุ่ม  จังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวเกี่ยวกับ ผกากรอง ไว้ใน นิตยสาร ชีวจิตร หน้า 81 ปีที่ 5 ฉบับที่ 100 พ.ศ 2546 ว่า  คุณประโยชน์ของผกากรอง  คือ  ใบสดมีรสขม  ช่วยขับลม แก้อาการบวม  ดอก มีรสจืดชุ่ม  ให้ความรู้สึกเย็น  แก้อักเสบ  แก้ปวดท้องอาเจียน  ราก  ใช้แก้หวัด  ปวดศีรษะ  ปวดฟัน  คางทูม  อย่างไรก็ดีการใช้ผกากรองรักษาอาการดังกล่าวควรอยู่ในความแนะนำของแพทย์

ส่วนที่มีโทษห้ามกินสำหรับทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือ  ผลที่แก่แต่ยังไม่สุก  เพราะมีสารพิษที่เรียกว่า แลนทาดีน เอ (Lantadene A)  และ แลนทาดีน บี (Lantadene  B)  แต่ แลนทาดีน บี  มีพิษน้อยกว่าแลนทาดีน เอ  ซึ่งถ้ากินเข้าไปสารนี้จะออกฤทธิทำให้  มีอาการอ่อนเพลีย  กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน  ไม่มีแรง ไม่สามารถยืนได้  มึนงง  อาเจียน  รูม่านตาขยาย  ตัวเขียว  ท้องเดิน  หมดสติ หายใจลึกแต่ระดับการหายใจจะช้าลงๆ และ ตาย ในที่สุด  ถ้านำส่งโรงพยาบาลไม่ทันท่วงที  โดยเฉพาะเด็กเล็กๆกำลังซุกซน  นำเอาผลผกากรองดังกล่าวมากินเล่นๆ

จากการเผยแพร่ของเวบไซท์ http://www.medplant.mahidol.ac.th มีเด็กหญิงอายุ  4  ขวบ  ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากพ่อแม่ทราบว่ากินผลผกากรองเข้าไปแล้วประมาณ  3  ชั่วโมงครึ่ง  มีอาการตามที่กล่าวมาแล้ว  แพทย์รีบทำการล้างท้องทันที และรักษาต่อไปอีก  24  ชั่วโมง จึงออกจากโรงพยาบาลได้   มีเด็กชายอายุ  3  ปีกินผลผกากรองเข้าไปเช่นกัน  แต่กว่าจะไปถึงโรงพยาบาล  ใช้เวลา  5  ชั่วโมง  แพทย์รีบล้างท้องทันที  ทำการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา  5  วัน จึงออกจากโรงพยาบาลได้   มีเด็กหญิงอายุขวบครึ่งกินผลผกากรองเข้าไปไม่ทราบปริมาณ  เด็กเสียชีวิตภายในเวลา  8  ชั่วโมง เนื่องจากรักษาไม่ทัน  ผลการชันสูตรศพแพทย์พบชิ้นส่วนผลผกากรองจำนวนมากในลำไส้  เป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ

ตอนนี้คงทราบอันตรายจากผลผกากรองที่ปลูกไว้ในบริเวณบ้านแล้วนะครับ  อย่าเผลอเด็ดเอาผลดังกล่าวมากินเล่น สารพิษจะเข้าสู่ร่างกายได้  และต้องบอกเด็กๆในบ้านที่กำลังซุกซน  วิ่งเล่น  ไปมา เห็นผกากรองที่ปลูกไว้ในบริเวณบ้านออกผล จึงเก็บมากินเล่นๆด้วยความซุกซน โดยไม่รู้ว่ามีสารพิษอยู่ด้วย  จะทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้นได้

*******ผกากรอง...สวยจริงแต่แฝงด้วยพิษร้าย ครับ************

ภาพ : http://images.palungjit.com/f643/ผกากรอง-26981.html