logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) และการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

โดย :
นภาพันธุ์ เรืองเสถียรทนต์
เมื่อ :
วันพฤหัสบดี, 03 มิถุนายน 2553
Hits
45358

การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคธาลัสซีเมีย

โดย...นางสาวนภาพันธุ์ เรืองเสถียรทนต์


 

โรคธาลัสซีเมียคืออะไร

โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางหรือภาวะซีดชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวและมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งสาเหตุเกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติและได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูก 'เมื่อลูกได้รับการถ่ายทอดจะทำให้มีการสร้างฮีโมโกลบินที่ผิดปกติ ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายและมีอายุสั้นลง' เป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะซีด หรือมีโลหิตจางเรื้อรัง โรคนี้สามารถเป็นได้ทั้งหญิงและชาย ซึ่งระดับความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกัน โดยผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการซีด ตาเหลือง ตับโต ม้ามโต ใบหน้าเปลี่ยน ดั้งจมูกแบนแฟบ กะโหลกศีรษะหนา โหนกแก้มสูง คางและขากรรไกรกว้าง ฟันบนยื่น กระดูกบางเปราะง่าย ผิวหนังดำคล้ำ ร่างกายเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ในบางรายอาจมีอาการรุนแรงมากจนถึงขั้นเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือหลังคลอดภายใน 24 ชั่วโมงได้ จากการสำรวจพบว่าผู้ที่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากถึงล้านคนหรือโดยเฉลี่ยแล้วในเด็กที่เกิดใหม่จำนวน 1,000 คน จะพบเด็กที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย 12 คน

 

 เม็ดเลือดแดง

 

เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคธาลัสซีเมีย

ลำดับแรกเราสามารถทราบว่าเราเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ได้จากการสอบถามประวัติของพ่อ แม่และญาติพี่น้อง ว่ามีใครที่มีลักษณะอาการของผู้เป็นโรคธาลัสซีเมียนี้บ้างหรือไม่แต่วิธีที่แน่นอนที่สุดคือการตรวจเลือดของเรา เพื่อให้ทราบว่าเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือเป็นพาหะของโรคหรือไม่

 

โรคธาลัสซีเมียถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อย่างไร

โรคธาลัสซีเมียถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้เนื่องจากยีนที่ควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินที่มีเป็นคู่นั้นเกิดการผิดปกติ โดยคนที่มียีนการสร้างฮีโมโกลบินผิดปกติเพียงข้างเดียวจะไม่แสดงอาการของโรค แต่ยังคงมียีนผิดปกติแฝงอยู่ ซึ่งเรียกว่าเป็น 'พาหะ (Trait carrier)' ความผิดปกติของยีนนี้แม้จะเป็นเพียงพาหะก็สามารถถ่ายทอดไปสู่บุตรหลานได้โดยมีอัตราร้อยละ 30-40 ส่วนอาการของผู้ที่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพเหมือนคนทั่วไป แต่สามารถถ่ายทอดยีนผิดปกติสู่ลูกได้ ซึ่งโอกาสในการถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคธาลัสซีเมีย เป็นดังนี้

1. ถ้าพ่อแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 25% หรือ 1 ใน 4 และโอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 50% หรือ 2 ใน 4 และโอกาสที่ลูกจะปกติเท่ากับ 25% หรือ 1 ใน 4

 

แผนภาพต้นไม้แสดงถ้าพ่อแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 25% และโอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 50% และโอกาสที่ลูกจะปกติเท่ากับ 25%

2. ถ้าพ่อหรือแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียคนเดียว โอกาสลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2 โอกาสลูกที่ปกติเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2

 

แผนภาพต้นไม้แสดงถ้าพ่อหรือแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียคนเดียว โอกาสลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% โอกาสลูกที่ปกติเท่ากับ 50%

 

3. ถ้าท่านหรือคู่สมรสของท่านคนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมีย และอีกคนมียีนแฝง โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2 โอกาสลูกที่จะเป็นธาลัสซีเมียเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2

 

แผนภาพต้นไม้แสดงถ้าพ่อแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมีย และอีกคนมียีนแฝง โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% และโอกาสลูกที่จะเป็นธาลัสซีเมียเท่ากับ 50%

 

4. ถ้าท่านหรือคู่สมรสของท่านเป็นโรคธาลัสซีเมีย โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 100% ลูกทุกคนจะมียีนแฝงของโรคธาลัสซีเมีย

 

แผนภาพต้นไม้แสดงถ้าท่านหรือคู่สมรสของท่านเป็นโรคธาลัสซีเมีย โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 100% ลูกทุกคนจะมียีนแฝงของโรคธาลัสซีเมีย

 

ในร่างกายคนปกติจะมีเม็ดเลือดแดงประมาณ 4-5 ล้านเซลล์ต่อไมโครลิตร ซึ่งเม็ดเลือดแดงจะมีสารสีแดงที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน (hemoglobin : Hb) โครงสร้างหรืออณูของฮีโมโกลบินจะถูกควบคุมโดยยีน (gene) และถ้าเกิดความผิดปกติของยีนเพียง 1 นิวคลีโอไทด์ อาจทำให้เกิดความผิดปกติในการสร้างฮีโมโกลบินได้ โดยปกติร่างกายจะมีการสร้างฮีโมโกลบินเอ (Hb A) ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนในฮีโมโกลบิน 2 ชนิด คือ ชนิดอัลฟา 2 สาย และชนิดเบต้า 2 สาย ดังนั้นโรคธาลัสซีเมียโดยทั่วไปจึงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ อัลฟา-ธาลัสซีเมีย (a-thalassemia) และเบต้า-ธาลัสซีเมีย (b- thalassemia)

1.  อัลฟา-ธาลัสซีเมีย (a-thalassemia)
เกิดจากการมิวเทชันของยีนอัลฟา-โกลบิน (a-globin gene) บนโครโมโซมคู่ที่ 11 โดยมีการสร้างสายอัลฟา-โกลบินลดลง จนถึงไม่มีการสร้างเลย  ทำให้มีสายเบต้า-โกลบินเกิน  ลักษณะอาการที่ตรวจพบขึ้นอยู่กับจำนวนของยีนอัลฟา-โกลบินที่ขาดหายไป เช่น 
-  a-thal 2 trait เกิดจากการขาดหายไปของยีนอัลฟา-โกลบินหนึ่งในสองยีนบนโครโมโซมเดียวกัน ซึ่งจะไม่แสดงอาการของโรคเลย 
-  a-thal 1 trait เกิดจากการขาดหายไปของยีนอัลฟา-โกลบินทั้งสองยีนบนโครโมโซมเดียวกัน ลักษณะอาการมีความรุนแรงน้อยมากถึงไม่มีอาการเลย 

2.  เบต้า-ธาลัสซีเมีย (b- thalassemia)
เกิดจากการมิวเทชันของยีนเบต้า-โกลบิน (b-globin gene) ซึ่งมี 1 ยีนบนโครโมโซมคู่ที่ 11  ของแต่ละโครโมโซม  โดยมีการสร้างสายเบต้า-โกลบินลดลงหรือไม่มีการสร้าง ทำให้มีสายอัลฟา-โกลบินเกิน ความรุนแรงของโรคเบต้า-ธาลัสซีเมียขึ้นอยู่กับตำแหน่งและชนิดของมิวเทชัน เช่น 
-  b+ -thalassemia เกิดจากการมิวเทชันที่ทำให้การสังเคราะห์เบต้า-โกลบินยังมีอยู่บ้าง 
-  b0-thalassemia เกิดจากการมิวเทชันที่ทำให้ไม่มีการสังเคราะห์เบต้า-โกลบินเลย

 

เปรียบเทียบลักษณะเม็ดเลือดคนปกติ กับเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย

 

ข้อควรระวังและวิธีปฏิบัติตัวสําหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย

โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายเนื่องจากเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ซึ่งบางรายสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีอาการแสดงรุนแรง ผู้ป่วยจึงควรปฏิบัติดังนี้ 

  1. รับประทานผักดิบ ไข่ นม และดื่มน้ำชามากๆ หลังอาหาร เพื่อลดการดูดซึมของธาตุเหล็ก 
  2. ควรหมั่นรักษาสุขภาพฟันและควรตรวจฟันอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เนื่องจากผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียมีโอกาสที่จะเกิดฟันผุได้ง่าย 
  3. หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือการเล่นกีฬาที่รุนแรง
  4. งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
  5. ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เลือดหมู เลือดไก่ หรือ เครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะตับ
  6. ห้ามรับประทานยาบํารุงเลือดที่มีธาตุเหล็กทุกชนิด เพราะจะทําให้มีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากและเร็วกว่าที่ควร
  7. ถ้ามีอาการปวดท้องที่บริเวณชายโครงขวาอย่างรุนแรง มีไข้หรือมีอาการตัวเหลืองมากขึ้น แสดงว่ามีการอักเสบของถุงน้ำดี ควรรีบพบแพทย์

 

ทําอย่างไร เมื่อรู้ว่าเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย

เนื่องจากโรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม  ดังนั้นจึงควรมีการวางแผนก่อนการมีบุตร โดยการพาคู่สมรสไปตรวจเลือดก่อนแต่งงาน  ถ้าตรวจพบว่าเป็นพาหะหรือมีความเสี่ยงสูงควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาทางรักษาต่อไป  หรือถ้ามีบุคคลในครอบครัวที่น่าสงสัยว่าจะเป็นพาหะ และยังไม่เคยตรวจ  ตลอดจนผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์แล้ว หรือผู้ที่มีภาวะซีดโดยไม่ทราบสาเหตุ และพบว่ามีภาวะซีดบ่อยๆ  ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูชนิดของฮีโมโกลบิน ตรวจระดับของธาตุเหล็กในร่างกายและตรวจดูภาวะเสี่ยงของโรคธาลัสซีเมีย

 



เอกสารอ้างอิง

1. สมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). โรคพันธุกรรมที่พบบ่อยในประเทศไทย. สาระน่ารู้อณูพันธุศาสตร์. 2548.  
2. พรรณี  พิเดช, ประภพ  ด่านเศรษฐกุล, เลอสรร  สุวรรณฑล. โรคธาลัสซีเมีย. ความรู้เรื่องสุขภาพ. 2547.  
3. โครงการตรวจสุขภาพชุมชน  คณะเทคนิคการแพทย์  มหาวิทยาลัยมหิดล. การตรวจดูฮีโมโกลบินที่ผิดปกติเพื่อดูภาวะเสี่ยงกับโรคธาลัสซีเมีย. เอกสารความรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพประจำปี.   
4. พีระพล วอง, พิริยา ถนอมรัตน์, สุชิลา ศรีทิพยวรรณ, ประวิทย์เตติวัฒน์, แน่งน้อย เจิมนิ่ม, หนึ่งฤทัย  นิ่มนุช, สุขุมาล นิยมธรรม, ต่อพงศ์สงวนเสริมศรี. ความชุกของธาลัสซีเมียเทรตจากการตรวจคัดกรองในหญิงตั้งครรภ์ของจังหวัดพิษณุโลก. วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตร์บริการโลหิต 2547; 14 (3): 181-6. 
5. http://www.absoluteastronomy.com/topics/Red_blood_cell (retrived February 25, 2009)

 

หัวเรื่อง และคำสำคัญ
ถ่ายทอด,พันธุกรรม,ธาลัสซีเมีย,โรค
ประเภท
Text
ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท.
บทความ
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
วันที่เสร็จ
วันพฤหัสบดี, 03 มิถุนายน 2553
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
นางสาวนภาพันธุ์ เรืองเสถียรทนต์
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
ชีววิทยา
ระดับชั้น
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
กลุ่มเป้าหมาย
ครู
นักเรียน
บุคคลทั่วไป
  • 283 ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) และการถ่ายทอดทางพันธุกรรม /article-biology/item/283-2010-06-03-08-17-29
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
    • Share
    • Tweet
    • Share

ค้นหาบทความ
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทความทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
  • คำถามที่พบบ่อย
Scimath คลังความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)