...พริกสกัดสร้างประโยชน์...
สำหรับในประเทศไทยนั้น พริกที่นิยมปลูกพริกกันเป็นส่วนใหญ่มีอยู่ 2 กลุ่มคือ พริกที่อยู่ในกลุ่มรสชาติไม่เผ็ดมากได้แก่ พริกหวาน พริกหยวก พริกชี้ฟ้า ซึ่งจัดเป็น และในกลุ่มของพริกที่เผ็ดได้แก่ พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูใหญ่ และพริกเหลือง นอกจากรสชาติเผ็ดที่ใช้ในการปรุงอาหารแล้ว พริกยังมีประโยชน์อีกมากเนื่องจากสามารถใช้ทานเป็นยาขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด ช่วยเจริญอาหาร นอกจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยยังสามารถนำสารประกอบในพริกมาสกัดเตรียมเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ ได้อีกมากมาย
รองศาสตราจารย์ วิมล ศรีศุข คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ดำเนินการวิจัยในโครงการ “ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อแก้ง่วงจากสารสกัดพริก” ภายใต้การสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากปัญหาของการใช้สารกระตุ้นแก้ง่วงในกลุ่มคนผู้ใช้แรงงาน คนขับรถบรรทุก คนขับรถโดยสารสาธารณะ กลุ่มคนทำงานในสำนักงานหรือนักเรียนนักศึกษา ที่นิยมเครื่องดื่มประกอบด้วยคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือสารที่เป็นอันตรายรุนแรงอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงานภายใต้ฤทธิ์ของสารกระตุ้นดังกล่าว
จากการศึกษาสมุนไพรไทยพบว่า ในผลพริกจะมีสารประกอบที่เรียกว่า แคปไซซินอยด์(Capsaicinoids) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้พริกมีรสชาติเผ็ด เมื่อให้ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ซึ่งจะส่งผลทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว ปลุกให้หายง่วงนอนได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
การวิจัยเริ่มต้นจากการสกัดสารแคปไซซินอยด์ในพริกอย่างพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูและพริกเหลือง ซึ่งเป็นพริกที่ให้รสชาติเผ็ดใช้แทนสารกระตุ้นที่ก่ออันตรายต่อสุขภาพ และเตรียมให้อยู่ในรูปแบบต่างๆที่สะดวกสำหรับการพกพา เช่น สเปรย์เพื่อใช้แก้ง่วง ที่มีส่วนผสมของสารสกัดพริกที่ให้ความเผ็ดและสารช่วยละลาย ออกฤทธิ์ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตของสูงขึ้นทันทีที่ฉีดพ่น ทำให้ตื่นตัวหายง่วงได้ ภายในเวลาประมาณครึ่งนาที
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาสารสกัดจากพริกมาใช้แก้ง่วงในรูปแบบของ แผ่นฟิล์มแก้ง่วง ที่มีลักษณะเหมือนแผ่นฟิล์มอมระงับกลิ่นปาก โดยมีส่วนผสมของสารสกัดพริกจากองค์การเภสัชกรรมและส่วนประกอบพื้นฐานของฟิล์ม ผสมกับสารที่ให้ความเหนียวและยืดหยุ่น สามารถนำไปใช้อมซึ่งสะดวกต่อการพกพาและเหมาะสำหรับผู้บริโภคโดยมีฤทธิ์กระตุ้นในทันทีที่อม และมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ขนมเจลาตินชนิดใช้เคี้ยวอม ได้อีกด้วย นอกจากนั้นงานวิจัยนี้ยังจึงสามารถนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไปด้วย
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.
Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved.
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)