logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • หนังสือเรียน
    • Ebook อื่นๆ
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมรหัสผ่าน
  • คำถามที่พบบ่อย
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
    • คู่มือครู
    • คู่มือการใช้หลักสูตร
    • ชุดสื่อ 60 พรรษา
    • E-Books อื่นๆ
  • Apps
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ
ลงชื่อเข้าสู่ระบบ

  • คำถามที่พบบ่อย
  • สมัครสมาชิก
  • Forgot your password?
ค้นหา
    
ค้นหาบทเรียน
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ

การตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ

โดย :
ศุภาวิตา จรรยา
เมื่อ :
วันอังคาร, 07 เมษายน 2563
Hits
146714

        น้อง ๆ คงเคยเห็นด่านตำรวจที่ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ส่วนมากที่เราเข้าใจกันคือถ้าผลตรวจเป็นสีม่วง นั่นก็หมายถึงคน ๆ นั้น ต้องสงสัยว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือมาการเสพยามานั่นเอง วันนี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ การตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ให้น้อง ๆ ได้เข้าใจว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และมีการนำความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการตรวจหรือไม่

9424 edit1

ภาพที่ 1 การตรวจหาสารเสพติด
ที่มา https://pixabay.com/th/ ,PublicDomainPictures

          พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้ให้ความหมายของ สารเสพติด ไว้ว่า สารเคมีหรือวัตถุชนิดใด ๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยวิธีรับประทาน ดม สูบ หรือด้วยวิธีการใด ๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ ได้แก่ มีความต้องการเสพเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เสพมีสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง เมื่อหยุดเสพหรือลดปริมาณการเสพลงมาจะเกิดอาการขาดยา หรือ ถอนยา ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติเนื่องจากมีอาการขาดยา และจะทำทุกทางที่จะทำให้ได้เสพยาหรือสารนั้น

การตรวจสารเสพติดสามารถตรวจได้จากปริมาณสารเสพติดที่ตกค้างในร่างกายได้หลายวิธี ได้แก่ เลือด ปัสสาวะ เส้นผม และเล็บ แต่การตรวจจากปัสสาวะนั้นเป็นวิธีที่สะดวกกว่าวิธีอื่น เพราะเก็บตัวอย่างได้ง่าย มีระยะเวลาในการตรวจพบนานกว่าในเลือด

          ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณสารเสพติดในปัสสาวะ ได้แก่ เภสัชจลศาสตร์ น้ำหนักของผู้เสพ ปริมาณของการเสพ ระยะเวลา/ความถี่ของการใช้ยา และความเป็นกรดเป็นด่างของปัสสาวะ ยกตัวอย่าง ผู้ที่เสพยาบ้า หรือยาไอซ์ จะสามารถตรวจพบ เมทอมเฟตามีนหรือแอมเฟตามีน ในผู้เสพที่ไม่ประจำใน 1-3 วัน หลังเสพ และ 2-3 วัน สำหรับผู้ที่เสพประจำ จนถึง 2-3 สัปดาห์สำหรับผู้เสพเรื้อรัง และแตกต่างกันไปสำหรับผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเภสัชจลศาสตร์ของสารที่ใช้ด้วย

9424 edit2

ภาพที่ 2 ช่วงเวลาที่มีโอกาสตรวจเจอสารเสพติดในปัสสาวะแบ่งตามชนิดของสารเสพติดและลักษณะการเสพ

ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ขั้นตอนการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ มี 3 ขั้นตอน ดังนี้

 

9424 edit3

ภาพที่ 3 ขั้นตอนการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ
ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

 

  1. การเก็บปัสสาวะ ในขั้นตอนนี้มีสิ่งที่ควรคำนึง ดังนี้
  • สถานที่เก็บ ต้องจัดให้มีบริเวณสำหรับปัสสาวะ และมีผู้ควบคุม ต้องไม่มีสบู่ ผงซักฟอก  ปิดวาล์วก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้าให้หมด และให้ใส่สารสีฟ้าลงในโถชักโครกหรือน้ำที่กักเก็บไว้ เพื่อป้องกันการนำน้ำมาเจือจาง ในปัสสาวะ

  • ภาชนะที่บรรจุ เป็นขวดแก้ว หรือพลาสติกที่แห้งสะอาด มีฉลากติดรายละเอียด ครบถ้วน ชัดเจน หลังบรรจุปัสสาวะแล้ว พันทับปากขวดด้วยเทปกาว พร้อมลายเซ็น เพื่อป้องกันการสับเปลี่ยน ปลอมปน

  • ปริมาตรปัสสาวะ ที่ใช้ในการตรวจจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของสารเสพติดที่ตรวจ แต่โดยรวมจะอยู่ที่ มากกว่า 15 มิลลิลิตร โดยยาบ้า ยาอี จะใช้ปัสสาวะไม่น้อยกว่า 15 มิลลิลิตร กัญชา ใช้ปัสสาวะไม่น้อยกว่า 30 มิลลิลิตร ส่วนมอร์ฟีน และ โคเคนใช้ปัสสาวะไม่น้อยกว่า 60 มิลลิลิตร ตามลำดับ

9424 edit4

ภาพที่ 4 ลักษณะการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้อง
ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

  1. การตรวจเบื้องต้น (Screening test) มีวิธีการตรวจโดย การหยดน้ำยาทดสอบ การใช้ชุดตรวจสอบเบื้องต้นตามหลักภูมิคุ้มกันวิทยา และ การจุ่มชุดทดสอบแบบกระดาษ ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอเฉพาะการใช้ชุดตรวจสอบเบื้องต้นตามหลักภูมิคุ้มกันวิทยาที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ซึ่งชุดตรวจสอบนี้สามารถเลือกใช้แตกต่างกันไปตามชนิดของสารเสพติดที่ต้องการตรวจสอบ
  • วิธีการอ่านและแปลผลชุดทดสอบ

           กรณีที่มีผลเป็นบวก  มีขีดที่ C การแปลผล คือ อาจมีสารเสพติดชนิดนั้น

           กรณีที่มีผลเป็นลบ    มีขีดที่ C และ T การแปลผล คือ ไม่มีสารเสพติดชนิดนั้น หรือมีสารเสพติดชนิดนั้นแต่มีความเข้มข้นน้อยกว่าค่า Cut off (ค่าปริมาณสารที่ชุดตรวจสอบจะตรวจได้)

9424 edit5

ภาพที่ 5 วิธีการอ่านและแปลผลชุดทดสอบ
ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

       ข้อดีของการตรวจสอบโดยใช้ชุดตรวจสอบเบื้องต้นตามหลักภูมิคุ้มกันวิทยา คือ ใช้งานง่าย รู้ผลเร็ว ผลบวกลวงน้อย มีระดับความเข้มข้นที่ตรวจได้มากกว่า 1 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร วิธีนี้มีความจำเพาะเจาะจง 95 %

       อย่างไรก็ตามมีสารที่ให้ผลบวกลวงในการใช้ชุดทดสอบ (ยาบ้า/ยาไอซ์) ได้คือ สารที่มีโครงสร้างคล้ายสารเสพติด เช่น ยาลดความอ้วน ยาที่ทำให้ไม่ง่วง Ranitidine Pseudoephedrine Dextromethorphan เป็นต้น

  1. การตรวจยืนยัน (Confirmation test) เมื่อมีการตรวจเบื้องต้นเป็น ผลบวก ก็จะมีการส่งตัวอย่างเพื่อตรวจยืนยัน โดยมีวิธีการตรวจโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือทางเคมีวิเคราะห์ที่มีความจำเพาะจงจงสูง  มีความไวสูง รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ
  • เทคนิคทางเคมีวิเคราะห์ที่ใช้ในการตรวจยืนยันชนิดและปริมาณของสารเสพติดในปัสสาวะในปัจจุบันมีดังนี้
  1. Thin Layer Chromatography (TLC Technique)
  2. Gas Chromatography (GC Technique)
  3. Gas Chromatographic – Mass spectrometry (GC-MS Technique : GC – MS, GC-MS/MS)
  4. Liquid Chromatography (LC Technique)
  5. Liquid Chromatographic – Mass spectrometry (LC-MS Technique : LC – MS, LC -MS/MS)
  6. LC – QTOF

     เทคนิคการตรวจยืนยันที่เข้าใจง่าย ราคาไม่แพง ไม่ต้องใช้เครื่องมือชั้นสูง และใช้ในงานตรวจพิสูจน์อกลักษณ์ได้ดี นั่นก็คือ TLC Technique ซึ่งใช้หลักการโครมาโทกราฟี คือ สารตัวอย่าง (ที่อยู่ในปัสสาวะ) ที่เป็นชนิดเดียวกันกับสารมาตรฐาน จะมีค่า Rf เท่ากัน ดังภาพที่  6  สารตัวอย่างรหัส 010536 – 010540  และ 010541, 010591- 010593 และ 010627 มีค่า Rf เท่ากันกับ M 1 ml และ M 1 ml      แสดงว่าสารตัวอย่างเหล่านั้นเป็นชนิดเดียวกันกับ M (สารละลายมาตรฐาน)

9424 6

ภาพที่ 6 การตรวจยืนยันโดยใช้ TLC Technique
ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

        ส่วนเทคนิคชั้นสูงที่ใช้ตรวจยืนยันตามข้อ 2-6 นั้น จะเป็นเทคนิคที่สามารถวิเคราะห์ดีทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณที่มีความจำเพาะเจาะจงสูง มีความไวสูง ได้รับความเชื่อถือในทางคดี โดยอาศัยหลักการทางโครมาโท กราฟีว่า สารตัวอย่าง (ที่อยู่ในปัสสาวะ) ที่เป็นชนิดเดียวกันกับสารมาตรฐาน จะมีค่า Rt (Retention time) เท่ากัน นั่นเอง

แหล่งที่มา

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. การตรวจพิสูจน์สารเสพติดในปัสสาวะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จาก https://bdn.go.th/th/sDetail/9/0/

สุเมธ  เที่ยงธรรม. การตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561. จาก https://bdn.go.th/th/sDetail/9/0/

หัวเรื่อง และคำสำคัญ
สารเสพติด, การตรวจเบื้องต้น, การตรวจยืนยัน, โครมาโทกราฟี
ประเภท
Text
ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท.
บทความ
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
ลิขสิทธิ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
วันที่เสร็จ
วันจันทร์, 15 ตุลาคม 2561
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของผลงาน
ศุภาวิตา จรรยา
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
เคมี
ระดับชั้น
ม.2
ม.3
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนต้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
กลุ่มเป้าหมาย
ครู
นักเรียน
บุคคลทั่วไป
  • 9424 การตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ /lesson-chemistry/item/9424-2018-11-14-08-39-46
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
    • Share
    • Tweet
    • Share

ค้นหาบทเรียน
กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
  • คำถามที่พบบ่อย
Scimath คลังความรู้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.

Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved. 
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)