พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการบริโภคเครื่องดื่มเย็นชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ชาไข่มุกยี่ห้อต่าง ๆ กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำแข็งไส ฯลฯ ซึ่งมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุได้แก่ การโฆษณาที่ดึงดูดและแพร่หลายอยู่ในสื่อแหล่งต่าง ๆ สภาพภูมิอากาศในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนจึงทำให้ผู้คนจึงนิยมดื่มเครื่องดื่มเย็นเพื่อดับกระหาย จากพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าวผู้บริโภคไม่ได้รับแค่ความสดชื่นจากความเย็น หรือความกระปรี้กระเปร่าจากคาเฟอีนเท่านั้น ยังมีอันตรายจากสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเครื่องดื่มเหล่านั้น นั่นคือ น้ำตาลปริมาณสูงมากจากการบริโภคต่อครั้ง โดยเปรียบเทียบกับแนวทางในการบริโภคที่เหมาะสมสำหรับคนไทย หรือธงโภชนาการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งแนวทางดังกล่าวแนะนำให้รับประทานน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ( จดหมายข่าวกรมอนามัย 2549; 7 ) ที่จะสะสมในร่างกาย จนนำไปสู่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โรคอ้วน หรือแม้แต่การเป็นโรคเบาหวาน
ภาพที่ 1 สารทดแทนความหวานแทนน้ำตาลที่มีขายตามท้องตลาด ซึ่งยี่ห้อนี้ทำมาจากแซคคารีนและซูคราโรส
ที่มา: ศุภาวิตา จรรยา
สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลหรือน้ำตาลเทียม จึงถูกนำมาใช้เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่รักษาสุขภาพมากขึ้น แต่ก็ยังมีคำถามว่าการเปลี่ยนมาดื่มเครื่องดื่มที่ผสมสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลนั้น มีความปลอดภัยต่อร่างกายหรือไม่ บทเรียนนี้จึงขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ซึ่งจะช่วยเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพตนเอง และสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมภายใต้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
สารให้ความหวานแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามคุณค่าทางโภชนาการ คือ สารให้ความหวานที่มีคุณค่าทางโภชนาการหรือสารให้ความหวานที่ให้พลังงาน ได้แก่พวก น้ำตาลซูโครส ฟรุกโตส กลูโคส ซูการ์แอลกอฮอล์ ( Sugar alcohol ) เช่น พวก ซอร์บิทอล แมนนิทอล ไซลิทอล และ ทากาโลส เป็นต้น ซึ่งในบทนี้จะไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของน้ำตาลจำพวกนี้ แต่จุดประสงค์หลักจะกล่าวถึงสารให้ความหวานอีกประเภทหนึ่งนั่นก็คือ สารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ให้พลังงาน เพราะสารเหล่านี้ถูกเลือกบริโภคโดยผู้ชื่นชอบเครื่องดื่มเย็น แต่เป็นคนที่รักสุขภาพ ใส่ใจเรื่องน้ำหนักและโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่เกิดจากปริมาณน้ำตาลในเลือด
สารให้ความหวานกลุ่มที่ไม่ให้พลังงาน มี 5 ชนิดที่องค์การอาหารและยาของอเมริกายอมรับให้ใช้ได้อย่างปลอดภัย ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณสูงสุดต่อวันที่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เกิดอันตรายใด ๆ เรียกว่า Acceptable daily intake levels หรือ ADI ดังจะกล่าวรายละเอียดไปพร้อม ๆ ในแต่ละหัวข้อดังนี้
ใน ค.ศ. 2000 องค์การอาหารและยาสหรัฐยกเลิกคำเตือนเรื่องการใช้งานแซคคารีนเนื่องจากนักวิจัยพบว่าของ pH, Calcium phosphate และโปรตีนในปัสสาวะไม่เหมือนกันกับของมนุษย์ และยังไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดมะเร็งในคนได้ จากนั้นในปี ค.ศ. 2001 องค์การอาหารและยาสหรัฐ และรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศว่าแซคคารีนนั้นปลอดภัยต่อการบริโภค
ส่วนในประเทศไทยมีการใช้แซคคารีนเป็นสารปรุงแต่งรสชาติให้กับอาหารของผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด การได้รับแซคคารีนในปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้ผู้บริโภค มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินท้องเสีย ปวดท้อง มีอาการง่วงซึม และอาจชักได้ ส่วนผู้ที่แพ้แซคคารีนอาจพบอาการอาเจียน ท้องเดิน และมีผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง ระดับ ADI ของแซคคารีน คือไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน
สำหรับการใช้แซคคารีนในสตรีมีครรภ์ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากมีบางการศึกษาพบว่า แซคคารีนผ่านรกเข้าไปในเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการใช้ในสตรีมีครรภ์
ระดับ ADI ของอะซิซัลเฟมโพแทสเซียม คือไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน อะซิซัลเฟมโพแทสเซียม ไม่ถูกเมแทบอลิซึมหรือเกิดการสะสมในร่างกาย เนื่องจากหลังบริโภคแล้วจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วและถูกกำจัดออกมาในรูปเดิม ยังไม่พบรายงานการศึกษาว่ามีอันตรายจากการใช้สารแทนน้ำตาลตัวนี้ทั้งในคนและสัตว์ทดลอง
ภาพที่ 2 อะซิซัลเฟม โพแทสเทียม ใช้ร่วมกับแอสพาร์แทม เพื่อลดรสขม และเสริมฤทธิ์ความหวานในเครื่องดื่มต่างๆ รวมทั้งน้ำอัดลมที่มีขายตามท้องตลาดเป็นทางเลือกสำหรับคนรักสุภาพ
ที่มา: ศุภาวิตา จรรยา
ระดับ ADI ของซูคราโลส คือไม่เกิน 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เมื่อรับประทานซูคราโรสเข้าไป จะถูกดูดซึมน้อยมาก และปริมาณที่ถูกดูดซึมนั้นจะถูกขับออกมาในรูปเดิมทางปัสสาวะ และปริมาณส่วนใหญ่ที่ไม่ถูกดูดซึมจะถูกขับออกในรูปเดิมทางอุจจาระ ไม่พบอันตรายใด ๆ จากการบริโภคซูคราโรสจากข้อสรุปจากผลการศึกษาทั้งในคนและสัตว์ทดลองมากกว่า 110 การศึกษา รวมทั้งสามารถใช้ได้ในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ป่วยเบาหวาน และ ผู้ป่วยที่มีภาวะฟีนิลคีโตนยูเรีย
การใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลทั้ง 5 ชนิดนั้น พบว่าสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย เมื่อรับประทานไม่เกินค่า ADI ที่กำหนดไว้สำหรับน้ำตาลเทียมแต่ละตัว มีข้อดีที่น้ำตาลเทียมเหล่านี้ไม่ให้พลังงาน จึงไม่ทำให้อ้วน และไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ไม่มีผลต่อความหิว ปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่มีปัญหาความอ้วน และผู้ที่รักษาสุขภาพในการเลือกบริโภคอาหารที่ยังมีรสหวาน แต่ไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฟีนิล คีโตนยูเรีย ( phenylketonuria ) ในการบริโภคแอสพาร์แทม และ การใช้แซคคารีนในสตรีมีครรภ์
แหล่งที่มา
วรรณคล เชื้อมงคล. สารให้ความหวาน:การใช้และความปลอดภัย. Thai Pharmaceutical and Health Science Journal, Vol. 3 No. 1, Jan. – Apr. 2008, หน้า 161-167
วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี. แซกคารีน. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/แซกคารีน
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. แซคคารีนคืออะไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 . จาก https://www.nstda.or.th/th/vdo-nstda/science-day-techno/4081-saccharin
อภัย ราษฎรวิจิตร. แซกคาริน (Saccharin). สืบค้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 . จาก http://haamor.com/th/แซกคาริน/
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.
Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved.
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)