ที่มาของรำข้าว
“ รำข้าว ” คือส่วนของผิวหรือเยื่อหุ้มเนื้อเมล็ดข้าว เป็นส่วนที่ถูกขัดสีออกจากเมล็ดข้าว ซึ่งประกอบด้วยชั้นเยื่อหุ้มเมล็ด และคัพภะ เป็นส่วนใหญ่ ได้มาจากกระบวนการสีข้าว โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รำหยาบ ซึ่งได้จากการขัดผิวเมล็ดข้าวกล้อง และรำละเอียด ได้จากการขัดขาวและขัดมัน มีกลิ่นหอม รสหวาน มัน อร่อย กินง่าย ผสมกับเครื่องดื่มได้ทุกชนิด ผสมข้าวต้ม โจ๊ก ข้าวผัด หรือข้าวสวยพร้อมกินกับกับข้าวอื่น ๆ ก็ได้ ด้านสารอาหารมีวิตามินอีหลายตัว ทำหน้าที่ต้านรังสี UV จากแสงแดด ช่วยเก็บน้ำไว้ใต้เซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวยืดหยุ่นเรียบเนียน ลดริ้วรอย และกลุ่มวิตามินอี (Gamma-Oryzanol) ที่มีเฉพาะในรำข้าว ทำให้ผิวใสลดคอเลสเตอรอล เพิ่มไขมันดีในกระแสเลือด เสริมสร้างการทำงานของระบบเลือด มีฮอร์โมนเมลาโทนิน ช่วยในการนอนหลับ และผ่อนคลาย อุดมด้วยกรดไขมันดีที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งกรด Omega-9, Omega-6, Omega-3
ภาพรำข้าวหยาบสำหรับทำปุ๋ยหมัก
ที่มา วรางรัตน์ เสนาสิงห์
รำข้าวมีกลิ่นหอม มีรสหวาน มีความมันอย่างยิ่ง กินอร่อย กินได้ง่าย ผสมกับเครื่องดื่มได้ทุกชนิด ผสมข้าวต้ม โจ๊ก ข้าวผัด หรือแม้แต่ข้าวสวยพร้อมกินกับกับข้าวอื่น ๆ ก็ได้ ซึ่งรำข้าวมีสองชนิดคือ
1. รำข้าวสด ดีที่สุด แต่ในทางปฏิบัติหาไม่ได้ เพราะเมื่อรำข้าวถูกสีออกจากเมล็ดข้าวมาแล้ว จะอยู่ได้ปกติเพียง 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ เหม็นหืน
2. รำข้าวอบ ที่มีขายทั่วไปก็คือรำข้าวที่นำมาอบจนแห้งแล้ว ซึ่งจะเก็บไว้ได้นาน และพร้อมผสมกินกับอาหาร หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ
คุณค่าทางด้านอาหารและสุขภาพ ตลอดจนป้องกันและรักษาโรคร้ายแรงทั้งหลายของสารอาหารในรำข้าว ดังนี้
-
เส้นใยอาหารเป็นเส้นใยชั้นดี ที่นอกจากห่อหุ้มน้ำกากอาหารออกมาจากลำไส้เล็กสู่ลำไส้ใหญ่พร้อมกับขัดสีฉวีวรรณผนังลำไส้ให้สะอาดหมดจดแล้ว ยังเป็นเส้นใยที่ต้านเอนไซม์ที่เข้ามาแปลงแป้งให้เป็นน้ำตาลกลูโคสอีก จึงทำให้น้ำตาลหรือกลูโคสค่อย ๆ เข้าสู่กระแสเลือด ตับอ่อนผู้ทำหน้าที่นี้สร้างอินซูลินฮอร์โมน เพื่อนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ ก็ไม่ต้องทำงานหนัก เป็นการต้านโรคเบาหวานไปในตัว
-
กลุ่มวิตามิน E มีหลายตัวที่อยู่ในรำข้าว ตั้งแต่โทโคฟีรอล (Tocopherol) โทโคไตรอีนอล (Tocoptrienol) เซราไมด์ (Ceramide) สควาลีน (Squalene) ซึ่งทำหน้าที่ต้านแสง UV ในแสงแดด ช่วยเก็บน้ำไว้ใต้เซลล์ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นเรียบเนียน ลดริ้วรอยชราอันเกิดจาการเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้ก็ต้านสารอนุมูลอิสระ
-
สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) เป็นกลุ่มวิตามิน E เช่นกัน แต่คุณสมบัติโดดเด่นเหนือกว่าวิตามิน E ใดๆ สารนี้มีอยู่เฉพาะในรำข้าวเท่านั้น กล่าวคือ
- มีคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวหนึ่งที่ทำลายผิว ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 6 เท่าของวิตามิน E อื่น ๆ จึงช่วยทำให้ผิวใส
- ทำหน้าที่ลดคอเลสเตอรอล LDL และเพิ่ม HDL ในกระแสเลือด และในพลาสมา (plasma) ลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล ในตับ
- เสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด และระบบหมุนเวียนเลือด
- ช่วยรักษาระบบการทำงานของสมอง และประสาทที่ผิดปกติ
- ช่วยการเจริญเติบโต และกระตุ้นการทำงานของระบบฮอร์โมนให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ และผ่อนคลาย
-
กรดไขมันจำเป็นเป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้กรดนี้มาจากการกินอาหารเท่านั้น ในรำข้าวมีกรดไขมันจำเป็นหลายตัว เช่น กรดโอเลอิก (Omega-9) กรดไลโนเลอิก (Omega-6) กรดไลโนเลนิก (Omega-3) ตัวนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง กรดไขมันจำเป็นดังที่กล่าวมานั้น ล้วนทำหน้าที่ลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (ตัวร้าย) และเพิ่ม HDL (ตัวดี) ในกระแสเลือด
แหล่งที่มา
Krua.com. (2560, 15 กุมภาพันธ์). รำข้าว. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2562, จาก https://krua.co/shop/สินค้าสุขภาพ/1/รำข้าวออร์แกนิก
Dailynews. (2557, 20 มีนาคม). รำข้าวมีคุณค่าทางอาหารประกอบด้วย โปรตีน ไขมัน ใยอาหาร เถ้า วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ ปัจจุบันมีการนำรำข้าวมาใช้ประโยชน์ เช่น น้ำมันรำข้าว. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2562, จาก https://www.dailynews.co.th/agriculture/224081
ครูบ้านนอกดอทคอม. (2560, 21 มีนาคม). รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2562, จาก https://www.kroobannok.com/65633
-
10608 ที่มาของรำข้าว /index.php/article-science/item/10608-2019-09-02-01-18-10เพิ่มในรายการโปรด