คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ วิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกตัวของอากาศ 2. การ เกิดเมฆและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ การเกิดเมฆ ด้านทักษะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. การหาความสัมพันธ์ของสเปซกับเวลา 2. การจัดกระทำ�และสื่อความหมายข้อมูล 3. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป 4. การสร้างแบบจำ�ลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ 2. การสร้างสรรค์ และนวัตกรรม 3. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� ด้านจิตวิทยาศาสตร์ 1. ความอยากรู้อยากเห็น 2. ความใจกว้าง 1. นำ�เข้าสู่บทเรียน โดยปฏิบัติดังตัวอย่างต่อไปนี้ 1.1 สังเกตเมฆบนท้องฟ้าและร่วมกันอภิปราย โดยใช้คำ�ถามดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ - เมฆที่สังเกตเห็นมีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - นักเรียนสามารถคาดคะเนลักษณะลมฟ้าอากาศจากเมฆได้ หรือไม่ อย่างไร 1.2 ร่วมอภิปรายเพื่อทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการควบแน่น และ การเกิดเมฆ โดยใช้คำ�ถามตัวอย่างต่อไปนี้ - การเปลี่ยนแปลงสถานะของน้ำ�เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง - เมฆเกิดขึ้นได้อย่างไร 2. ร่วมกันทำ�กิจกรรมเป็นกลุ่ม เพื่อศึกษากระบวนการและปัจจัยสำ�คัญของ การเกิดเมฆ โดยปฏิบัติดังนี้ 2.1 ทดลองเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความกดอากาศที่ระดับความสูงต่าง ๆ 2.2 วิเคราะห์ข้อมูล และเขียนแผนภาพเพื่อเปรียบเทียบอุณหภูมิของ ก้อนอากาศ (air parcel) และอากาศโดยรอบที่ระดับความสูงต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพของอากาศและการเกิดเมฆ 2.3 สืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับความร้อนเหนือพื้นผิว ความลาดชันของพื้นที่ แนวพัดสอบของลม และสร้างแบบจำ�ลองแนวปะทะอากาศ เพื่อ อธิบายกลไกของการยกตัวของอากาศ 2.4 สืบค้นข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ กับการเกิดเมฆและลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกี่ยวข้อง ด้านความรู้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกตัวของอากาศ การเกิดเมฆ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเมฆ จากผลงาน และการตอบคำ�ถามระหว่างการนำ�เสนอผลงาน การร่วมอภิปรายเพื่อสรุปองค์ความรู้ และแบบฝึกหัด หรือแบบทดสอบ ด้านทักษะ 1. การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซ และสเปซ กับเวลา จากการสร้างแบบจำ�ลองประกอบการวิเคราะห์ ข้อมูลเพื่อหาโอกาสในการเกิดเมฆ 2. การจัดกระทำ�และสื่อความหมายข้อมูล จาก การสร้างแบบจำ�ลองหรือเขียนแผนภาพเพื่อแสดง โอกาสในการเกิดเมฆ 3. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จาก การอธิบายการเกิดเมฆในสภาพแวดล้อมที่กำ�หนด 4. การสร้างแบบจำ�ลอง จากการสร้างแบบจำ�ลอง เพื่ออธิบายเสถียรภาพอากาศ และแนวปะทะอากาศ 5. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จาก การสืบค้นข้อมูล และการนำ�เสนอผลงาน 6. การสร้างสรรค์ และนวัตกรรม จากการเขียนแผนภาพ แสดงการเกิดเมฆในสภาวะแวดล้อมที่กำ�หนด และ นำ�เสนอแนวคิดในการทำ�ฝนหลวง ผลการเรียนรู้ 8. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพอากาศและการเกิดเมฆ 9. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่างๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกี่ยวข้อง 101

RkJQdWJsaXNoZXIy NzMxODQ4