คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ วิชาเคมี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วิชาเคมี 54 แนวการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียน ในศตวรรษที่ ๒๑ การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสมรรถนะของ ผู้เรียนให้พร้อมที่จะดำ�รงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างประสบความสำ�เร็จได้ ในอนาคตนั้น จำ�เป็นต้องเน้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนานักคิด นักแก้ปัญหา และนักเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ เรียนรู้ของตนเองตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการเรียนรู้ โดยอาจทำ�ได้ดังนี้ จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัด ของผู้เรียน โดยคำ�นึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ผู้สอนกระตุ้นหรือจัดสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้เกิดคำ�ถามหรือข้อสงสัย ที่อยากค้นหาคำ�ตอบ ผู้เรียนใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้อย่างเป็นระบบเพื่อค้นหา คำ�ตอบที่สงสัย โดยเริ่มจากการลงมือสืบเสาะหาความรู้ตามคำ�แนะนำ� จนกระทั่งสามารถออกแบบและวางแผนการสืบเสาะ เพื่อเก็บรวบรวม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ แล้วนำ�มาสร้างคำ�อธิบายด้วยตนเอง ผู้เรียนควรมีโอกาสได้ฝึกฝนและพัฒนาแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ อย่างลุ่มลึกและเชื่อมโยงกันผ่านการทำ�กิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง สม่ำ�เสมอและเหมาะสม กับวัย ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องตามยุคสมัยในการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ในการสืบเสาะหาความรู้ ใช้ สืบค้นข้อมูลทั้งจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ ใช้จัดกระทำ�และ สื่อความหมายข้อมูล ใช้สร้างแบบจำ�ลอง ผู้เรียนสามารถออกแบบและทำ�โครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อฝึกฝนและสามารถใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ กระบวนการสำ�หรับการออกแบบและเทคโนโลยี และทักษะที่สำ�คัญ สำ�หรับศตวรรษที่ ๒๑ มาแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้ ผู้เรียนได้เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์จากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อขยายขอบเขตการเรียนรู้และสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้ใน ห้องเรียนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำ�วัน ตลอดจนเห็นความสำ�คัญ ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้เรียนควรมีโอกาสได้รู้จักและคุ้นเคยกับการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิด ขึ้นจริง ซึ่งอาจเพิ่มระดับความซับซ้อนของข้อมูลให้เหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน เช่น ผู้เรียนระดับประถมศึกษาได้ฝึกฝนการวิเคราะห์และ สร้างคำ�อธิบายจากข้อมูลที่เก็บได้จริงแต่ไม่มีความซับซ้อน ส่วนใน ระดับมัธยมศึกษาอาจให้ผู้เรียนได้ฝึกการวิเคราะห์และอธิบายข้อมูล ขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งเป็นข้อมูลที่หลากหลาย ซับซ้อน มีปริมาณ มาก และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่สามารถนำ�มาจัดกระทำ�หรือ จัดการได้ด้วยวิธีการหรือเครื่องมือแบบเดิม ผู้เรียนมีโอกาสนำ�ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปบูรณาการ กับความรู้จากแขนงวิชาอื่น ๆ เช่น คณิตศาสตร์ มาแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้อง กับชีวิตจริง หรือเกิดขึ้นจริง โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
RkJQdWJsaXNoZXIy NzMxODQ4