คิดว่าหลายคนเมื่อไปทะเลแล้วคงได้กินกุ้ง หรือบางคนอาจจะเคยได้กินกั้ง กันด้วยแน่ๆ และอาจจะสับสนว่า กุ้ง และกั้ง นั้นทำไมหน้าตาดูคล้ายกันมาก แล้วเราจะแยกความแตกต่างนี้ได้อย่างไร เพื่อเวลาสั่งมากินนั้นจะได้สั่งได้ถูกต้อง
กุ้งและกั้งในทางชีววิทยานั้น มีการจำแนกชั้นเหมือน และต่างกันดังนี้
กุ้ง | กั้ง | |
อาณาจักร | Animalia | Animalia |
ไฟลัม | Arthropoda | Arthropoda |
ไฟลัมย่อย | Crustacea | Crustacea |
ชั้น | Malacostraca | Malacostraca |
อันดับ | Decapoda | Stomatopoda |
กั้ง (อังกฤษ: Mantis shrimp) ญาติสนิทของกุ้ง เพราะอยู่ในกลุ่ม ครัสตาเซียนเหมือนกัน คือสัตว์น้ำจำพวกหนึ่ง อาศัยอยู่ในทะเล โดยทั่วไปมีรูปร่างคล้ายกุ้งผสมกับตั๊กแตนตำข้าว หายใจด้วยเหงือกเช่นเดียวกับกุ้ง ลำตัวมีรูปร่างแบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ 5 แต่ไม่ถึงปล้องที่ 8 กรีมีลักษณะแบนราบ มีขาทั้งหมด 3 คู่
มักอาศัยอยู่ในทะเลโคลน หรือ บริเวณปากแม่น้ำ หรือตามแนวปะการัง และพบได้ถึงระดับความลึกกว่า 1,500 เมตร กั้งเป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดในโลกนี้มาก่อนกุ้ง มีจุดเด่น คือ มีดวงตาขนาดใหญ่ สามารถใช้สแกนมองภาพได้ดี โดยสามารถมองเห็นภาพชัดลึกได้ดี ตาแต่ละข้างของกั้งสามารถมองเห็นได้ 3 ตา และตาแต่ละดวงมองเห็นภาพได้ 3 ภาพ และสามารถกะระยะได้ดีมากเพื่อใช้ในการล่าเหยื่อ กั้งมีแก้วตาหลายพันชิ้น และสามารถมองเห็นสีได้ในระดับที่ซับซ้อน โดยถือว่าเป็นสัตว์จำพวกหนึ่งที่มีระบบการมองเห็นภาพดีที่สุดในอาณาจักรสัตว์โลก
ไม่มีก้ามหนีบ แต่มีระยางค์ส่วนอกคู่ที่ 2 มีลักษณะเป็นก้ามสับขนาดใหญ่พับได้คล้ายมีดโกน และมีซี่ฟันแหลมคมเรียงกันเป็นแถวคล้ายหวี ใช้สำหรับฆ่าเหยื่อหรือป้องกันตัว ซึ่งสามารถใช้สับน้ำให้เกิดเป็นแรงขนาดมากได้ จนอาจถึงทำร้ายสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น มนุษย์ให้ได้รับบาดเจ็บได้ กั้งถูกค้นพบแล้วกว่า 450 ชนิด ในประเทศไทยมีรายงานพบแล้วอย่างน้อย 61 ชนิด
กั้งเป็นสัตว์ใกล้เคียงกับกุ้งแต่รูปร่างแตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัด มีตัวแบนกว่ากุ้ง บางชนิดหัวก็แบน ขาสั้น กั้งหายใจด้วยเหงือก และอาศัยหากินอยู่ที่พื้นทะเลทั่วไป ทั้งที่เป็นทรายและที่เป็นโคลนโดยการขุดรูอยู่ กั้งจะขึ้นจากรูเมื่อมีคลื่นลมจัด คลานไปมาหาอาหาร
กุ้งทะเล สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้สองกลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มกุ้งโบราณ (prawn) ได้แก่ เคย และกุ้งพีเนียด ส่วนอีกกลุ่มคือ กุ้ง (shrimp) ได้แก่ กุ้งนักมวยและ กุ้งคาริเดีย โดยมากแล้วกุ้งที่พบเห็นในท้องทะเลจะเป็นกุ้งในกลุ่มที่สองเสียเป็นส่วนใหญ่
สีสันและรูปร่าง อันหลากหลายของกุ้งทะเล แต่ละชนิดนั้น นอกจากจะให้ความสวยงามน่าชมแล้ว เบื้องหลังความงามนั้น มีความลับต่างๆ ของท้องทะเลซ่อนอยู่มากมาย มันเป็นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่บอกถึงการพึ่งพาอาศัยกัน การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ตลอดจนอธิบายได้ถึงระบบนิเวศที่กุ้งแต่ละชนิดอาศัยอยู่ อย่าง กุ้งปะการังลูกโป่งที่จะอาศัยซ่อนตัวอยู่แค่ในปะการังลูกโป่งเท่านั้น หรือ กุ้งสีสันสวยงามอย่าง กุ้งตัวตลก ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่า..จะเป็นนักล่าหน้าสวยที่สังหารดาวขนนกได้อย่างเลือดเย็น แต่ก็ยังมีกุ้งใจดีอย่างกุ้งพยาบาลที่คอยช่วยทำความสะอาดฟันให้เจ้าปลาไหลมอเร่ย์อย่างเต็มอกเต็มใจ หรือกระทั่งความสัมพันธ์แบบพึ่งพาที่เกิดขึ้นระหว่างกุ้งดีดขันกับปลาบู่ที่ใช้บ้านหลังเดียวกันได้
กุ้งมีลำตัวกลม ท่อนหัวโต เรียวลงไปทางหาง ลำตัวกุ้งแบ่งออกได้เป็นสามท่อนคือ หัว อก และท้อง แต่หัวกับอกมีเปลือกแข็งห่อหุ้ม รวมเป็นท่อนเดียว มักเรียกกันว่าหัวกุ้ง ส่วนที่ถัดมาจากหัวเป็นท้อง คือส่วนที่เรียกกันว่าตัวกุ้ง โค้งและงอได้ ที่ท้องมีขาสำหรับว่ายน้ำ ปลายของท้องเป็นหางรูปคล้ายพัดคลี่ออกได้ กุ้งมีขาห้าคู่เท่ากันกับปู
กั้งอยู่รวมกับกุ้ง
กับมีหนวดเป็นเส้นยาวหลายเส้นยื่นออกไปจากหัวสำหรับคลำทาง กุ้งหายใจทางเหงือกกุ้งมีทั้งกุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม กุ้งทะเลมีหลายขนาดทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่กุ้งในทะเลที่เป็นกุ้งขนาดใหญ่ ได้แก่ กุ้งหัวโขนหรือกุ้งยักษ์ กุ้งชนิดนี้มีส่วนหัวกลมยาวเป็นรูปทรงกระบอกและค่อยเรียวลงไปทางหาง เปลือกแข็ง ผิวขรุขระ และมีหนามแหลมทั้งตัว หนวดเส้นยาวใหญ่มีหนามแหลมด้วย อาศัยหากินอยู่ตามพื้นทะเลที่มีหินปะการัง และเป็นกุ้งที่มีรูปร่างน่าดูมาก
ซ้าย: กุ้ง และกลาง: กั้ง
ส่วนในการบริโภคนั้น กั้งนิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช่นเดียวกับกุ้ง โดยปกติแล้วจะมีราคาสูงกว่ากุ้งธรรมดาหรือปู ในบางชนิดนิยมนำมาแช่กับน้ำปลารับประทานกับข้าวต้ม เขาว่ากันว่าเนื้อกั้งอร่อย เพราะเนื้อเหมือนทั้งกุ้งและปูผสมกัน รู้อย่างนี้แล้วลองไปเลือกทานกันได้เลยตามความชอบ...
อ้างอิงเนื้อหาจาก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87
http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view2.aspx?id=8867
http://www.panoramaworldwide.com/thai/tvprogramme/asea/index.php?d=1&aa=1&video=as-10-07-2013.mp4&ton=1236&ba=1
http://www.thaigoodview.com/node/132634
ภาพจาก
http://1.bp.blogspot.com/-hFp2VGnYeQQ/T01kkivXMzI/AAAAAAAAPJU/iQjqm_n5E1o/s320/IMG_5186.jpg
http://pantip.com/topic/31253892
http://www.atlantis-jj.com/var/shop/1272042814.jpg
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร ได้จัดทำเว็บไซต์คลังความรู้ SciMath เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลหรือเนื้อหาใด ๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST), Ministry of Education, a non-profit organization under the Thai government, developed SciMath as a website that provides educational resources in Science, Mathematics and Technology. IPST invites visitors to use its online resources for personal, educational and other non-commercial purpose. If there are any problems, please contact us immediately.
Copyright © 2018 SCIMATH :: คลังความรู้ SciMath. Terms and Conditions. Privacy. , All Rights Reserved.
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. (ให้บริการในวันและเวลาราชการเท่านั้น)